จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 8 มีนาคม 2011 – 8 มีนาคม 2021: ครบรอบ 10 ปี กับเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตของผมในตอนนั้น………….

ต้องบอกว่าเรื่องที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวผมเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งวันที่เกิดเหตุวันนั้นเป็นวันที่ 8 มีนาคม 2011 จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่ผมเขียน วันที่ 8 มีนาคม 2021 ก็ถือว่าครบรอบ 10 ปีพอดี

ผมจึงอยากนำมาเล่าเพื่อเป็นการเตือนตัวเองไม่ให้ลืม อีกทั้งก็เป็นการเตือนให้คนอื่นๆได้รู้ว่าเหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนถ้าเราไม่รู้จักระมัดระวัง (และอาจอันตรายถึงชีวิตได้)

โดยเหตุการณ์ที่ผมจะเล่าให้ฟังเมื่อ 10 ปี ก่อน มีความเกี่ยวข้องกับอาหารที่เราทานกันนั่นแหละ

และนี่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมในวันนั้น……..

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นตรงกับวันอังคารที่ 8 มีนาคม 2011 เวลาในตอนเช้าประมาณ 10:00

ผมจำได้ว่า ผมกำลังนั่งนับและแยกเหรียญ (ที่ได้รับจากลูกค้า) เป็นกองๆอยู่บนโต๊ะ

และในขณะที่ผมกำลังนับเหรียญอยู่ ผมก็รู้สึกว่ามือของผมข้างซ้าย จู่ๆก็เกร็งขึ้นมาทันที รวมทั้งผมก็รู้สึกว่ากำลังของมือข้างซ้ายนี้เหมือนกับไม่มีแรงเลย (คือไม่มีแรงจับอะไรเลย)

ยังดีที่ว่าในตอนนั้นผมยังพอรู้สึกตัวอยู่ ผมเลยรีบนั่งลงกับพื้นและส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากญาติของผมที่อยู่ใกล้ๆ

สักพัก มือข้างขวาของผมก็เกร็งตามไปด้วย รวมไปถึงทั้งร่างกายของผมก็รู้สึกชาขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าขยับร่างกายแทบไม่ได้เลย

ผมร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา ส่วนญาติของผมก็รีบเข้ามาดูว่าผมเป็นอะไร

จังหวะนั้นเอง ตัวผมก็สลบลงไปบนพื้น และไม่รู้สึกตัวอยู่พักนึง

อาการที่ผมเป็นในตอนนั้น เป็นอาการการชักเกร็งของร่างกาย

กว่าที่ผมจะรู้สึกตัว ญาติของก็ไปตามคุณหมอที่อยู่ในบริเวณนั้นมาดูอาการของผม

**พอดีว่าสถานที่เกิดเหตุในตอนนั้นมีคลินิกหมอร้านนึงตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็เลยตามมาช่วยไว้ได้**

สุดท้าย คุณหมอคนนี้ก็โทรแจ้งรถพยาบาลให้นำตัวผมส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้สุดอย่างด่วน

Photo by Anna Shvets on Pexels.com

ผมจำได้ว่าเมื่อผมมาถึงที่โรงพยาบาลในส่วนที่เป็นแผนกฉุกเฉิน ผมก็นอนรออยู่บนเตียงรถเข็น เพื่อที่จะให้คุณหมอในแผนกมาดูอาการ แต่ก็รออยู่นานพอสมควร

แต่แล้ว อาการชักเกร็งของผมก็แสดงออกมาอีก คราวนี้ผมร้องเจ็บปวดดังลั่น จนสุดท้ายผมสลบและไม่รู้ตัวเลย

กว่าจะรู้ตัวอีกที ผมก็อยู่นอนอยู่บนเตียงในห้องพักคนไข้ โดยมีญาติของผมนั่งเฝ้าอยู่

**ในส่วนตรงนี้ ผมจะไม่ขอพูดรายละเอียดมาก เพียงแค่บอกได้ว่าผมต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งคืน และผมก็ได้รับคำแนะนำจากคนรู้จักว่า ให้ไปทำ MRI เพื่อตรวจเช็คว่าร่างกายของผมมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า โดยให้เช็คส่วนที่เป็นสมอง**

สุดท้ายผมก็ตัดสินใจไปทำ MRI (เป็นการตรวจร่างกายด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า) ที่โรงพยาบาลอีกแห่งนึง

ซึ่งการตรวจก็ใช้เวลาพอสมควร ผมจำได้ว่าต้องนอนและเข้าไปในอุโมงค์ของตัว MRI และจำได้ว่าตอนที่กำลังตรวจ เครื่องเสียงมันดังมากๆ แต่ผมก็อดทนไว้ ทำตามที่เจ้าหน้าที่บอก

Photo by MART PRODUCTION on Pexels.com

และหลังจากที่ตรวจด้วย MRI แล้ว คุณหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก็มาแจ้งให้ผมทราบว่า………

ผลจากการทำ MRI พบว่ามีพยาธิเข้าไปอยู่ในสมองของผม !0__0!

นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงชักเกร็ง

และคุณหมอคนนี้ก็บอกกับผมอีกว่า สาเหตุที่ทำให้มีพยาธิเข้าไปอยู่ในสมองของผมแล้วทำให้ผมเกิดอาการชักเกร็งนั้น เป็นเพราะว่าผมน่าจะไปทานอาหารที่ไม่สะอาดและไม่ได้ปรุงให้สุก

เพราะในอาหารบางอย่างที่ยังไม่ได้รับการปรุงอาจมีตัวพยาธิติดมาได้

แต่ก็โชคดีที่คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อให้ผมทานโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ผมเลยรู้สึกโล่งใจ แถมผมก็ไม่ต้องนอนที่โรงพยาบาลอีกด้วย : )

อีกทั้งคุณหมอก็ให้ยาทานกันชักเกร็งเป็นขวด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการชักเกร็งเกิดขึ้นกับผมอีก ซึ่งผมก็ต้องทานเป็นเวลาหลายปี

…………………

และเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เป็นบทเรียนที่ทำให้ผมจำจนมาถึงทุกวันนี้ว่า จะทานอาหารอะไรก็ตามแต่ ขอให้แน่ใจว่าอาหารนั้นที่เราจะทานเป็นอาหารที่ปรุงสุก, สะอาดและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

อีกทั้งจนถึงปัจจุบันนี้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องทานยากันชักเกร็งขวดนั้นอีกแล้ว ถือว่าโชคดีสำหรับผม

ก็เป็นอันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว 10 มีนาคม 2011 ก็จะเป็นเหตุการณ์ที่ผมจะไม่ลืมเลย และก็หวังว่าคนอื่นๆที่ได้อ่านเรื่องนี้คงจะไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างที่ผมเคยเจอ

ดังนั้นเวลาที่จะทานอะไรก็ตามแต่ ก็จงพึงระลึกไว้ว่าสิ่งที่เราทานไปนั้นจะต้องสะอาดและผ่านการปรุงสุกแล้ว จะได้ไม่ต้องมาล้มป่วยแบบที่ผมเคยเป็น : )

____________________________________