ครบรอบ 10 ปีของการวางจำหน่าย iPad 2 ที่ตัวผมก็ยังใช้จนถึงทุกวันนี้……..

วันนี้ก็เป็นวันครบรอบ 10 ปีของการวางจำหน่าย iPad 2 ของบริษัท Apple ซึ่งถือว่าเป็น iPad รุ่นที่สองในตระกูลของ iPad ทั้งหมด (รุ่นปัจจุบันที่วางจำหน่ายล่าสุด ก็เป็น iPad Air รุ่นที่ 4)

สำหรับวันที่วางจำหน่ายก็คือวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2011 (อันนี้ยึดถือตามวันวางจำหน่ายของประเทศแรกในโลกซึ่งก็คือสหรัฐอเมริกา)

ที่ผมเขียนขึ้นมานี้ เพราะผมเองก็มี iPad 2 ใช้อยู่เครื่องนึงด้วย

และก็เครื่องที่ว่านี้ก็ยังใช้จนถึงทุกวันนี้ : )

ซึ่งก็เป็นไปตามที่เห็นในรูปล่างนะ…………

อย่างที่เห็น iPad 2 เครื่องนี้ถูกผลิตขึ้นในปี 2012 (สามารถเช็คได้จากเว็บ https://www.imei.info/apple-sn-check/ โดยดูจาก Serial Number ที่อยู่ด้านหลังเครื่อง จะเป็น iPad หรือ iPhone ก็เช็คได้หมด) สีของตัวเครื่องเป็นสีขาว และเครื่องนี้เป็นรุ่นที่เก็บข้อมูลได้ 16 GB

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆของตัว iPad 2 เครื่องนี้ก็สามารถไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่องของมันได้นะ ไม่ขอพูดถึงมาก

แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกเกี่ยวกับ iPad 2 ที่เป็นเครื่องของผมเครื่องนี้คือ……..

iPad 2 เครื่องนี้ผมได้รับต่อมาจากคนที่รู้จัก (ซึ่งคนๆนั้นเปลี่ยนไปใช้เป็น iPad รุ่นที่ดีกว่า ก็เลยยกเครื่องนี้มาให้ผมใช้)

ซึ่งต้องบอกว่าสำหรับผมแล้ว ผมยังถือว่า iPad 2 เครื่องนี้ของผมยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อยู่ (แม้ว่าทาง Apple จะหยุดสนับสนุนไปตั้งแต่ปี 2016 ก็ตาม)

เพราะการใช้งานของ App ต่างๆบนเครื่องก็ยังสามารถใช้ได้จนถึงทุกวันนี้

มีทั้ง……….

Safari: Browser ที่ใช้ค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต

Facebook และ Twitter: ไว้สำหรับติดตามข่าวสารต่างๆ

Spotify: ไว้ฟังเพลงต่างๆ ที่ผมสามารถเชื่อมต่อ Bluetooth กับ Soundbar หรือ Smart TV ได้

เครื่องคิดเลข: ก็เอาไว้ใช้คำนวณ

นาฬิกา: ไว้สำหรับดูเวลาและสภาพอากาศของแต่ละประเทศทั่วโลก

ซึ่งก็มีแค่นี้เท่าที่ผมจำได้ : )

นอกจากนี้ iPad 2 เครื่องนี้ ผมก็เคยนำไปใช้ที่ญี่ปุ่นหลายครั้งด้วย ส่วนมากก็ใช้ในการดูแผนที่ตาม Google Maps และใช้ถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอเป็นบางครั้ง

อีกทั้งหน้าจอของมันก็มีรอยแตก (ตามที่ผมทำวงกลมแดงในรูปล่าง) ซึ่งรอยนี้เกิดจากคนใช้คนเก่า (คนที่ยกเครื่องให้ผม) ที่เผลอไปทำอย่างไรก็ไม่รู้ ทำให้หน้าจอมีรอยแตก ซึ่งรอยแตกนี้ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานของเครื่องเลย ใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งผมก็โอเค (ถ้าเป็นบางคนก็อาจไม่อยากใช้ เพียงแค่เพราะหน้าจอมันมีรอยแตก)

และถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะใช้งานได้อยู่ แต่การใช้งานบางอย่างก็เริ่มมีติดขัดบ้าง อย่างปุ่ม Home ที่อยู่ด้านล่างของเครื่อง เวลาที่จะกดก็ต้องออกแรงเยอะนิดนึง ผมก็เลยต้องมาใช้ฟังก์ชั่น Assistive Touch แทน รวมไปถึงการประมวลผลใน App บางตัวที่เริ่มช้าลงกว่าเดิม แต่ผมก็ไม่บ่นอะไร เพราะต้องยอมรับว่านี่เป็น iPad รุ่นเก่า การทำงานมันก็ต้องช้าลงไปด้วย