P.K. EXPLORE

เนื่องในโอกาสที่จะเข้าสู่ปีใหม่ปี 2026 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ ผมอยากจะเขียนเรื่องนี้ลงไว้เพื่อจะได้เตือนตัวเอง และเพื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่น่าจะเคยเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกับผมนะ

ซึ่งก็เกี่ยวกับการซื้อของขวัญปีใหม่นั่นเอง!!!

คือเมื่อพูดถึงเทศกาลปีใหม่ ไม่ว่าจะกี่ยุค กี่สมัย เรื่องการให้ของขวัญแทบจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วจนกลายเป็นธรรมเนียม ไม่ว่าจะให้กับคนในครอบครัว, ญาติพี่น้อง, เพื่อนฝูง, คนที่เรารู้จัก รวมไปถึงคู่ค้าทางธุรกิจ

เวลาที่ผมนึกถึงประเภทของขวัญปีใหม่ ผมมักจะนึกถึงตามนี้ เช่น ขนมทานเล่นที่บรรจุใส่ในกล่องที่สวยงาม, ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตที่สามารถใช้ได้นานๆ หรือไม่ก็เป็นกระเช้าของขวัญที่มีกล่องขนมหลากหลายใส่ลงไปเพื่อให้ดูเยอะ (อันนี้ที่บอกก็เพื่อจะได้นึกภาพกันออกนะ)

แต่ไม่ว่าผมจะซื้อของขวัญปีใหม่เพื่อที่จะให้ใครก็ตามแต่ (หรือได้รับมอบหมายให้ไปซื้อจากคนอื่นอีกที) สิ่งสำคัญที่ผมจะต้องคิดอยู่เสมอคือ จำนวนบุคคลที่ผมจะให้ของขวัญปีใหม่ในปีนั้นๆมีทั้งหมดกี่ราย เหตุผลก็เพื่อที่ผมจะได้เตรียมและวางแผนจำนวนของขวัญให้พอดีกับบุคคลที่ผมจะมอบให้

แน่นอน ถ้าหากว่าจำนวนบุคคลที่ผมจะให้ของขวัญปีใหม่จำนวนเยอะมาก (อย่างน้อย 10 รายขึ้นไป) ผมก็ยิ่งที่จะต้องเตรียมของขวัญปีใหม่เหล่านี้ไว้ล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ๆ และสิ่งที่ผมต้องทำก็คือตระเวนไปดูตามห้างร้านค้าต่างๆว่าสินค้าที่เป็นของขวัญปีใหม่ที่โชว์ตามชั้นวางนั้นเป็นสินค้าแบบไหนบ้าง ส่วนมากที่ผมมักจะเลือกซื้อก็เป็นกล่องขนมทานเล่น (แบบคุกกี้หรือบิสกิต), กระเป๋าผ้า หรือไม่ก็ผ้าเช็ดตัว

มาถึงตรงนี้ ผมอยากจะบอกว่า…..

ถ้าเป็นไปได้ ควรรีบซื้อของขวัญปีใหม่ให้เร็วที่สุดก่อนที่สินค้าจะหมดจากชั้นวาง

ทำไมเหรอ???

ก็เพราะว่าผมเคยมีประสบการณ์จากปีที่ผ่านๆมา เมื่อผมไม่สามารถหาซื้อของขวัญปีใหม่ได้เพียงพอกับจำนวนที่ผมต้องการให้ เพียงเพราะคิดแค่ว่า “ยังไม่ต้องรีบไปซื้อแต่เนิ่นๆหรอก เดี๋ยวค่อยไปซื้อตอนใกล้ๆช่วงเทศกาลดีกว่า สินค้ายังน่าจะมีอยู่”

ถ้าจะมองให้เห็นภาพชัดเจน ผมจะอธิบายแบบนี้ คือในช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนของแต่ละปี ผมสังเกตว่าตามห้างหรือร้านค้าต่างๆจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าที่เป็นของขวัญปีใหม่ตามชั้นวางต่างๆในจำนวนที่ถือว่าเยอะมาก (เหมือนกับเพิ่งตั้งวางโชว์สดๆร้อนๆ) คือถ้าใครเดินผ่านและอยากจะซื้อจำนวนมาก ก็สามารถซื้อได้เลยโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีของ

แต่พอมาถึงในช่วงประมาณต้นๆหรือกลางๆเดือนธันวาคม (ที่ใกล้เข้าช่วงเทศกาลปีใหม่) สินค้าที่เป็นของขวัญปีใหม่ตามชั้นวางต่างๆเหล่านี้เริ่มมีจำนวนที่ลดลง อย่างเช่น เดิมทีมีวางจำหน่าย 50 ชิ้น ก็จะเหลือไม่ถึง 10 ชิ้น

และยิ่งไปกว่านี้ สินค้าของขวัญปีใหม่บางประเภทก็หมดไปจากสต็อกอย่างรวดเร็ว และไม่มีการเติมสต๊อกรอบใหม่

พูดง่ายๆก็คือ ยิ่งถ้าจำนวนบุคคลที่เราจะให้ของขวัญปีใหม่มีจำนวนมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งควรที่จะรีบซื้อของขวัญปีใหม่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่สินค้าจะหมดจากชั้นวาง เพื่อที่จะได้ซื้อให้ครบเพียงพอกับจำนวนตามที่ต้องการ อีกทั้งยังมีโอกาสได้เลือกประเภทของขวัญได้มากขึ้นด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงไม่พลาดกับปีนี้ที่ผมได้เตรียมตัวมาล่วงหน้าเป็นเดือน ทำรายชื่อบุคคลต่างๆที่ผมจะให้ของขวัญปีใหม่และทำเป็นลิสต์ของมาว่าแต่ละคนควรจะได้ของขวัญแบบไหน เมื่อผมสรุปข้อมูลทุกอย่างออกมา ผมก็แค่ไปตามห้างร้านและเช็คดูเป็นช่วงๆว่าสินค้าของขวัญปีใหม่มาหรือยัง เพราะถ้าสินค้ามาแล้ว ผมก็ไม่รอช้าที่จะซื้อ เดินไปถึงชั้นวางสินค้า หยิบลงใส่รถเข็นตามจำนวน แล้วเดินไปชำระเงิน แค่นี้จบ

และเมื่อถึงเวลาให้ของขวัญปีใหม่ ผมก็สามารถให้ได้เลย โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าผมได้เตรียมของขวัญมาหรือยัง เพราะว่าผมได้เตรียมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เอาเป็นว่า ผมจะนำบทเรียนนี้เกี่ยวกับการซื้อของขวัญปีใหม่ไปใช้กับปีต่อๆไป อย่างน้อย ถ้าผมเตรียมตัวไว้ก่อน ก็มีโอกาสได้เลือกสินค้าของขวัญปีใหม่ได้มากกว่าคนอื่นๆ : )

________________________________________________