บัตร Suica ที่ผมยอมรับว่าเป็นบัตรที่ใช้งานง่ายมากสำหรับการใช้จ่ายต่างๆในญี่ปุ่น…….

ที่เขียนขึ้นมาก็สืบเนื่องจากข่าวเมื่อไม่นานมานี้ที่ทาง JR East ได้ประกาศหยุดจำหน่ายบัตร Suica แบบชั่วคราวเนื่องจากขาดแคลนในเรื่องของวัตถุดิบ (ซึ่งก็น่าจะเป็นตัวชิปที่ฝังอยู่ในบัตร) เท่ากับว่าใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้และคิดที่จะซื้อบัตร Suica ก็จะซื้อไม่ได้นะ แต่สามารถซื้อเป็นบัตร Welcome Suica แทน (เป็นบัตรสีแดงที่มีไว้จำหน่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ)

รายละเอียดของตัวข่าวนี้ผมไม่ขอพูดถึง เพราะสิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือการใช้บัตร Suica จากความรู้สึกของผมที่ใช้มาตลอดตั้งแต่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาหลายรอบนะ (และผมจำได้ว่าผมน่าจะยังไม่เคยลงเรื่องเกี่ยวกับบัตร Suica)

อย่างที่หลายคนทราบกันดี บัตร Suica เป็นบัตรที่ใช้ในการจ่ายค่าโดยสารเวลาที่ขึ้นรถไฟสายต่างๆทั่วญี่ปุ่น (ไม่ว่าจะบนดินหรือใต้ดิน) รวมไปถึงสามารถใช้จ่ายอะไรต่างๆอื่นๆได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเครื่องดื่มจากตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญ, การใช้บริการตู้ล็อกเกอร์ฝากสัมภาระ หรือแม้แต่ใช้จ่ายตามร้านค้าต่างๆที่รับบัตร Suica และเมื่อถึงเวลาที่เงินเยนในบัตรใกล้จะหมด เราก็แค่ไปเติมเงินในบัตรผ่านเครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารตามสถานีรถไฟต่างๆทั่วญี่ปุ่นแค่นั้น ไม่ยากเลย

**อันที่จริงบัตร Suica จะสามารถหาซื้อได้เฉพาะในโตเกียวและเมืองใกล้เคียงที่เป็น JR East ส่วนภูมิภาคอื่นๆในญี่ปุ่นก็จะเป็นบัตรที่เหมือนกับ Suica ต่างกันตรงบริษัทที่ออกบัตรจะใช้เป็นชื่อยี่ห้ออื่น เช่น ICOCA, HAYAKAKEN หรือ SUGOCA เป็นต้น แต่ก็สามารถใช้งานได้เหมือนกับ Suica ทุกอย่าง**

ซึ่งจุดเด่นที่เห็นชัดบนบัตรก็คือมัสคอตนกเพนกวินเนี่ยแหละ เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าเป็นบัตร Suica นี่เอง : )

อย่างที่เห็นอยู่ในรูปแรก นี่เป็นบัตร Suica ใบแรกของผมที่ผมซื้อมาจากสถานีรถไฟ JR สถานีหนึ่งในโตเกียว ซึ่งผมจำได้ว่าซื้อในตอนที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งที่สอง และนับจนถึงทริปญี่ปุ่นล่าสุดของผม (ก่อนโควิด) ผมก็ใช้บัตรใบนี้มาโดยตลอดในการขึ้นรถไฟสายต่างๆทั่วญี่ปุ่น (ในกรณีที่ผมไม่ได้ใช้ JR PASS หรือบัตรแบบ One-Day Pass นะ)

และจากการที่ผมใช้บัตร Suica ใบนี้มาหลายครั้ง แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนญี่ปุ่น ผมก็ยอมรับว่ามันเป็นบัตรที่ใช้งานง่ายมากในเวลาที่ผมจะขึ้นรถไฟญี่ปุ่น (เดินผ่านแผงกั้นก็แค่แตะบัตรเท่านั้น) รวมไปถึงการใช้งานในเรื่องการใช้จ่ายต่างๆในญี่ปุ่นตามที่ผมไปกล่าวไปข้างต้น ซึ่งส่วนมากผมจะใช้ในการซื้อเครื่องดื่มจากตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญ

มากไปกว่านี้ ข้อดีของบัตร Suica นี้ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือ เงินเยนที่คงเหลืออยู่ใบบัตรสามารถเก็บได้จนถึง 10 ปี นับจากการใช้งานครั้งล่าสุด (บัตร Suica ของผมที่เห็นในรูปมีเงินเยนเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าเหลือเท่าไหร่) ดังนั้นผมไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลหากผมใช้เงินเยนในบัตร Suica ไม่หมดในแต่ละทริปที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะถ้าเงินเยนยังมีคงเหลืออยู่ในบัตร ผมก็เอามาใช้ในทริปถัดไปได้ (แต่ก็ต้องภายใน 10 ปีนะ)

เอาเป็นว่า ถ้าใครที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ การมีบัตร Suica ติดตัวไว้จะเป็นประโยชน์จริงๆเวลาที่จะขึ้นรถไฟหรือซื้อของใช้บริการอะไรก็ตามแต่ในญี่ปุ่น แต่ ณ ขณะนี้ ในเมื่อบัตร Suica ยังไม่มีวางจำหน่ายชั่วคราวก็ต้องใช้เป็นบัตร Welcome Suica แทนไปก่อนนะ

__________________