ผมคงจะต้องเริ่มต้นตรงนี้ว่า………
เป็นทริปญี่ปุ่นที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอคอยมากที่สุด
เพราะนี่ถือว่าเป็นทริปญี่ปุ่นที่ผมได้ออกเดินทางไปเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ผมไม่ได้ไปมานานถึง 4 ปี สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด
ดังที่ผมเคยได้บอกไว้เมื่อปลายปีที่แล้วว่า “ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและตัวผมพร้อม ผมก็จะได้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งนึง”
และสิ่งที่ผมได้บอกไปก็เป็นจริงในที่สุด จากความตั้งใจและความมุ่งมั่นของผม พร้อมกับรูปถ่ายทั้งหมดที่ได้เห็นอยู่ตรงนี้ที่เป็นชุดรูปถ่ายใหม่ล่าสุดที่ผมถ่ายจากญี่ปุ่น : )

ผมคงจะไม่ลงรายละเอียดแบบเจาะลึกลงไปสำหรับทริปญี่ปุ่นล่าสุดของผมที่ผ่านมานี้ ขอเอาแค่แบบภาพรวมคร่าวๆก็แล้วกันตามใน List…..
สำหรับภาพรวมแล้ว ความรู้สึก บรรยากาศ และรูปแบบการเที่ยวญี่ปุ่นในทริปนี้ของผม ก็แทบจะไม่แตกต่างมากจากทริปก่อนๆ
โดยเฉพาะนาทีที่เท้าผมแตะบนพื้นของสนามบินก็ทำให้ผมรู้สึกว่าความรู้สึกนี้มันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ทั้งที่จริงๆแล้วเวลามันผ่านไปนานถึง 4 ปีทีเดียว (หลายๆคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นประจำก็คงจะรู้สึกเหมือนกับที่ผมรู้สึกนะ) ซึ่งทริปครั้งนี้ผมบินลงที่สนามบินคันไซและบินกลับจากสนามบินนาริตะ
และ List ต่างๆที่ผมอยากจะบอกนั้น ก็เป็นไปตามนี้เลย……
– เวลาที่จะเดินทางไปไหนมาไหน ผมก็ใช้รถไฟสาธารณะทั้งสาย JR และสายเอกชนเหมือนที่เคยใช้มาตลอด และนี่ก็น่าจะเป็นครั้งแรกในหลายรอบปีของผมที่ผมไม่ได้ใช้บริการรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro เพราะตามโปรแกรมที่ผมวางแผนสำหรับทริปนี้ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ Tokyo Metro

– การใช้บัตร JR PASS เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางรถไฟสาย JR รวมไปถึงรถไฟชินคันเซ็น ซึ่งแน่นอนว่าการใช้บัตร JR PASS ครั้งนี้จะไม่ใช้เป็นกระดาษแข็งอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นบัตรสีเขียวเล็กๆที่เสียบไปในช่องเสียบบัตร โดยไม่จำเป็นต้องโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู (ตามที่ผมเคยเขียนไว้ อย่างไรก็ตามมันก็มีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เดี๋ยวผมค่อยมาเขียนทีหลัง)
– โรงแรมที่พัก แน่นอนว่าผมก็จะต้องใช้บริการโรงแรม Toyoko Inn ที่ผมเคยใช้บริการ เพราะด้วยราคาที่ไม่แพง, มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงมีอาหารเช้าให้ฟรีด้วย

– สถานที่เที่ยว ก็มีทั้งสถานที่ใหม่ๆที่ผมยังไม่เคยไป รวมไปถึงสถานที่เดิม (ที่ผมเคยไปมาแล้ว) ที่ผมอยากไปอีกเพื่อที่อยากจะรู้ว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง มีทั้งสวนสาธารณะ, ศาลเจ้า, วัด, วิวทิวทัศน์, พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า
– เรื่องของอาหาร มีทั้งร้านอาหารที่ผมเข้าไปนั่งทาน จะเป็นในห้างสรรพสินค้า, ตามสถานีรถไฟ หรือแม้แต่ร้านขนมข้างทาง รวมไปถึงอาหารที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อมานั่งทานที่โรงแรม ที่ผมยังจำรสชาติได้ไม่ลืมเลย

– การสื่อสารกับคนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานโรงแรม, เจ้าหน้าที่ตามสถานีรถไฟ, พนักงานขายสินค้า หรือคนขับแท็กซี่ก็ตามแต่ ภาษาอังกฤษก็ยังเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร แต่ผมยอมรับว่าผมเริ่มที่จะใช้ภาษาญี่ปุ่นสื่อสารได้บ้างนิดนึง
– รวมไปถึงการที่ผมได้ไปนั่งชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นอีกครั้ง ซึ่งก็แทบจะถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ตลอดเวลาที่ผมาเที่ยวญี่ปุ่นทุกครั้ง ซึ่งภาพยนตร์ที่ผมได้ไปชมก็ไม่ใช่เรื่องไหนนอกจาก Precure All Stars F (เดี๋ยวผมจะมาเขียนรีวิวตาม)
– และผลพวงของสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาในเรื่องของการใส่หน้ากากอนามัยนั้น เท่าที่ผมสังเกต คนญี่ปุ่นส่วนมากไม่ค่อยใส่หน้ากากอนามัยกันแล้ว จะมีส่วนที่ใส่น้อยมาก ถ้าให้เทียบเป็นอัตราส่วนจากที่ผมประมาณ ก็น่าจะอยู่ที่ 70:30 (คนที่ไม่ใส่กับคนที่ใส่) ดังนั้นถ้าหากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องใส่หน้ากากก็ได้

และแม้ว่าภาพรวมของทริปญี่ปุ่นครั้งนี้จาก List ข้างต้นจะเหมือนทริปครั้งก่อนๆ ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจนจากที่ผมเห็น ไม่ว่าจะเป็น…..
– การที่ต้องจองกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่เวลาที่ขึ้นรถไฟรถไฟชินคันเซ็น (ซึ่งผมเคยเขียนไว้นานมากแล้วก่อนหน้านี้)
– การลดการใช้ถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ และส่งเสริมการนำถุงผ้ามาใส่ของเอง หากต้องการถุงพลาสติกก็ต้องเสียเงินเพิ่ม
– การใช้บัตรต่างๆในการใช้จ่ายสินค้าบริการมากยิ่งขึ้น เช่น บัตร YouTrip, บัตร IC Card หรือแม้แต่บัตรเครดิต
– การใช้เครื่องชำระเงินด้วยตัวเอง หรือ Self Check Out ตามห้างและร้านค้าต่างๆ
– ของใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกตามโรงแรมที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการให้บริการ
ซึ่งก็มีเท่านี้ตามที่ผมพอจะนึกออกนะ !0__0!

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นการสรุปภาพรวมทั้งหมดแบบคร่าวๆจากทริปญี่ปุ่นล่าสุดของผมที่ผ่านมานี้ รายละเอียดต่างๆของแต่ละเรื่อง (ทั้งที่มีอยู่ในนี้และไม่มีอยู่ในนี้) ผมจะค่อยทยอยเขียนลงตามหลังจากนี้นะ (รวมไปถึงเรื่องเก่าๆที่ผมอยากเขียน แต่ยังไม่มีโอกาสเขียนสักที) ซึ่งผมหวังว่าแต่ละเรื่องที่ผมจะเขียนก็คงจะมีประโยชน์สำหรับทุกคนที่ได้มาอ่านกัน
ส่วนคนอื่นๆที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ไปมานานหรือไปเที่ยวเป็นครั้งแรกในชีวิต ขอให้ทุกๆคนโชคดีกับการเดินทางนะ : )


________________________________
คุณต้อง เข้าสู่ระบบแล้ว เพื่อส่งแสดงความเห็น.