ความรู้สึกนี้มันเป็นแบบนี้นี่เอง: เมื่อผมต้องทำเวลาให้ทันเพื่อที่จะได้ชมภาพยนตร์ Wonderful Precure! ให้ทันก่อนถึงรอบฉายตามเวลาที่ญี่ปุ่น……

ขอเริ่มต้นสำหรับต้นปีนี้ด้วยหนึ่งในประสบการณ์จากทริปญี่ปุ่นล่าสุดที่ผมอยากจะเอามาแชร์ เพื่อเอาไว้ให้เป็นตัวอย่างเผื่อมีใครที่ไปญี่ปุ่นแล้วอาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกับที่ผมเจอ

นั่นก็คือความรู้สึกของตัวผมกับการทำเวลาให้ทันเพื่อที่จะได้ชมภาพยนตร์ Wonderful Precure! ให้ทันก่อนถึงรอบฉายตามเวลาที่โรงภาพยนตร์ Shinjuku Wald 9 ที่ญี่ปุ่น

หรือจะพูดง่ายๆก็คือ ไปโรงภาพยนตร์ให้ทันรอบฉายนะ : )

ก่อนหน้านี้ผมได้รีวิวภาพยนตร์ Wonderful Precure! ในฉบับของผมตามความรู้สึกที่ได้บอกไปว่าไม่รู้สึกค้างคาใจอะไรหลังจากที่ได้ชมไปแล้ว ถ้าใครอยากจะอ่านตัวรีวิวก็สามารถกดไปอ่านกันได้

แต่ตรงนี้ ผมอยากจะแชร์อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเบื้องหลังของการที่ผมได้มาชมภาพยนตร์พรีเคียวเรื่องนี้ที่ญี่ปุ่นสักหน่อย ให้ถือซะว่าเป็นการนั่งเล่าความรู้สึกจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ทำให้รู้สึกว่าโล่งอก ดีใจที่ได้ทำสำเร็จ อะไรแบบนี้

คือว่าวันที่ผมได้ไปชมภาพยนตร์ Wonderful Precure! นั้นตรงกับวันที่ผมเดินทางมาถึงญี่ปุ่น (ของทริปล่าสุดปี 2024) โดยผมได้วางแผนล่วงหน้ามาจากบ้านเช็คดูรอบฉายว่ามีรอบเวลาไหนบ้างในวันนั้น

พอเช็คไปเช็คมาก็เจอรอบประมาณช่วง 20:00 อีกทั้งก็สามารถเช็คดูได้ว่าจำนวนที่นั่งในรอบฉายนั้นๆมีที่ว่างเหลืออยู่เท่าไหร่ เพราะถ้าหากที่นั่งเต็มผมก็จะได้ไม่ต้องไปชมในวันนั้น ค่อยไปชมวันอื่นในช่วงที่ผมยังอยู่ญี่ปุ่น

เมื่อผมได้เช็คดูรอบฉายแล้ว (รอบที่ผมอยากจะไปชม) พบว่ายังพอมีที่นั่งเหลืออยู่ ตามที่เห็นในรูปที่ผมลงไว้ (อันนี้ผมแคปเจอร์จาก IPhone)

มองดูแล้วที่นั่งยังมีเหลือจริง แต่ในใจผมคิดว่าถ้าจะดีก็ควรรีบไปที่โรงภาพยนตร์ Shinjuku Wald 9 ให้เร็วที่สุดก่อนที่ตัวภาพยนตร์จะฉาย เพื่อที่ว่าผมจะได้ซื้อบัตรเข้าชมได้ทัน (อันที่จริงผมก็สามารถซื้อผ่านทางเว็บของโรงภาพยนตร์ได้ แต่ผมกลัวว่าจะทำผิดพลาดบวกกับความไม่คุ้นในการใช้งานด้วย)

ด้วยเหตุนี้ เมื่อถึงวันที่ผมเดินทางมาถึงญี่ปุ่นที่สนามบินนาริตะ ผมจึงรีบทำเวลาให้ทันตามลำดับตามที่วางแผน ไม่ว่าจะเข้าแถวรอคิวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง, รอรับกระเป๋าที่สายพาน, นั่ง Narita Express จากสนามบินไปลงที่สถานี Shinagawa, เรียกแท็กซี่ไปที่โรงแรม Toyoko Inn (เพื่อที่จะเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บ), รีบขึ้นรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Shinjuku และเดินด้วยเท้าต่อไปที่โรงภาพยนตร์ Shinjuku Wald 9 ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 9 ของตึก Shinjuku Marui Annex

คือทุกอย่างที่ผมทำตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นและลุ้นอยู่ตลอดว่าผมจะทำเวลาได้ทันหรือไม่ เพื่อที่จะได้ชมภาพยนตร์ Wonderful Precure! และผมเองก็รู้อยู่ในใจในขณะนั้นว่าทุกนาทีมีค่าหมด เพราะถ้าผมแค่มาช้าไป 5 นาทีก็อาจทำให้แผนที่จะชมภาพยนตร์ Wonderful Precure! ต้องล่มไป

แต่ท้ายสุด ผมก็ทำเวลาได้ทัน เมื่อผมขึ้นลิฟต์มาถึงชั้น 9 ที่เป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ Shinjuku Wald 9 ผมไม่รอช้ารีบเดินไปที่เครื่องจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์อัตโนมัติแล้วรีบกดเลือกรอบฉาย กดยืนยัน จ่ายเงิน และรับบัตรเข้าชม แค่นี้ผมก็ได้ทำสำเร็จ

และก็ไม่รอช้า ผมรีบเข้าไปในโรงภาพยนตร์ทันทีพร้อมกับคนญี่ปุ่นคนอื่นๆที่ไปชมด้วย ทันทีที่ผมนั่งลงบนที่นั่งจากที่ระบุไว้ในบัตร ความตื่นเต้นและความลุ้นระทึกก็หายไปในพริบตาทันที และผมก็ได้ชมภาพยนตร์ Wonderful Precure! ตามที่วางแผนไว้สำเร็จซะที : )

ก็คงจะเห็นภาพกันออกนะว่าความรู้สึกของผมเป็นอย่างไรในวันนั้น

คือคนที่ไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้เวลาที่อยู่ญี่ปุ่นก็อาจยังไม่เข้าใจ แต่สำหรับคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นประจำหรืออาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลานานก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ในเวลาที่เราจะต้องอะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับการรีบทำเวลาให้ทันก่อนที่จะสายเกินไปหรือทำให้เสียแผนอะไรแบบนี้

อย่างน้อยผมก็ได้รู้แล้วว่าความรู้สึกนี้มันเป็นแบบนี้นี่เอง และผมก็รู้ว่าครั้งต่อไปที่ผมไปญี่ปุ่นก็น่าจะต้องเจอความรู้สึกแบบนี้อีก : )