สำหรับคนที่กำลังจะไปญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 นี้เป็นต้นไป หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็น่าจะทราบดีกันแล้วว่าภาษีบริโภคในญี่ปุ่น (หรือจะเรียกว่าภาษีมูลค่าเพิ่ม) จะถูกปรับขึ้นเป็น 10% จากในขณะนี้ (ที่ผมกำลังเขียนอยู่) ที่ยังอยู่ที่ 8% โดยสาเหตุส่วนนึงที่ทางญี่ปุ่นจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นภาษีตัวนี้ ก็เนื่องจากจะต้องนำเงินส่วนนี้ไปใช้เป็นสวัสดิการสำหรับกลุ่มคนผู้สูงอายุนั่นเอง
แต่ในการปรับขึ้นภาษีบริโภคครั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าสินค้าทุกอย่างจะขึ้นเป็น 10% หมดนะ เพราะสินค้าบางรายการก็ยังคงอัตราภาษีไว้อยู่ที่ 8% อย่างเช่นอาหารและเครื่องดื่มที่ซื้อแบบ Take Out ที่ตัวผมก็เข้าข่ายข้อนี้เลย
โดยเฉพาะถ้าวันไหนที่ผมกลับมาถึงโรงแรมที่พักตอนดึกแล้วยังไม่ได้ทานอะไรเป็นอาหารเย็น ผมก็สามารถเดินออกไปซื้ออาหารกล่องได้ที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ แล้วเอากลับมาทานที่โรงแรมก็ยังได้ โดยจ่ายภาษีในอัตรา 8% เหมือนเดิม (ถ้าหากทานในร้านจะต้องจ่ายเป็น 10% นะ)
พูดถึงภาษีบริโภคของญี่ปุ่นที่จะถูกปรับขึ้นเป็น 10% ในเดือนหน้านั้น ทำให้ผมนึกถึงสินค้าที่ผมซื้อมาจากญี่ปุ่นในช่วงที่อัตราภาษีบริโภคยังอยู่ที่ 5% และ 8% อยู่
ถ้าจะถามว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ผมซื้อจากญี่ปุ่นในช่วงที่อัตราภาษีบริโภคยังอยู่ที่ 5% และ 8% อยู่ ผมขอตอบว่า จำได้ไม่หมดว่ามีอะไรบ้าง (ถ้าจะให้ตอบนี่ ก็คงต้องไล่ดูว่าแต่ละครั้งที่ไปญี่ปุ่น ซื้ออะไรมาบ้างนะ !0__0!) อย่างน้อยก็ต้องมีค่าบัตรโดยสารรถไฟ, ค่ารถประจำทางสาธารณะ รวมไปถึงค่าอาหารที่ไปทานตามร้านอาหารต่างๆตามสถานีรถไฟหรือไม่ก็ตามห้างสรรพสินค้า
แต่สิ่งที่ผมจำได้ก็คือ ผมรู้ว่าสินค้าชิ้นไหนที่ผมซื้อมาจากญี่ปุ่นเป็นสินค้าชิ้นสุดท้ายที่ผมซื้อมาในช่วงที่อัตราภาษีบริโภคยังเป็น 5% และ 8% อยู่
***แต่ต้องบอกก่อนว่าสินค้าชิ้นสุดท้ายนี้ ไม่รวมถึงค่าโดยสารรถไฟหรืออาหารการกินนะ เพราะผมถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในระหว่างที่เที่ยวในญี่ปุ่นซึ่งทุกคนที่ไปเที่ยวก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้***
ซึ่งสินค้าชิ้นสุดท้ายเหล่านี้ที่ผมซื้อมาในตอนที่อัตราภาษีบริโภคอยู่ 5% และ 8% ก็เป็นไปอย่างที่เห็นในรูปล่าง……..
ซีดีเพลงนั่นเอง ซึ่งผมก็เป็นคนชอบซื้อซีดีเพลงจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว : )
งั้นมาเริ่มจากซีดีเพลงแผ่นแรกที่ผมซื้อมาตอนที่อัตราภาษีบริโภคยังอยู่ที่ 5 % กันก่อน (อัตราภาษีนี้ใช้จนถึง 31 มีนาคม 2014)
ซึ่งซีดีเพลงแผ่นนี้ก็เป็นซีดีซิงเกิ้ลจาก Heartcatch! Precure ที่เป็น Character Song ของ Tsubomi และ Erika (ออกวางจำหน่ายปี 2010) ที่มีอยู่แค่สองเพลง (ไม่รวมเวอร์ชั่นคาราโอเกะนะ) ใครที่เป็นแฟนๆพรีเคียวของภาคนี้น่าจะต้องเคยเห็นซีดีซิงเกิ้ลนี้มาก่อน ซึ่งตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นแผ่นที่ค่อนข้างหายาก
โดยราคาของแผ่นซีดีแผ่นนี้ถ้ายังไม่รวมภาษีราคาจะอยู่ที่ 1200 เยน และเมื่อรวมกับภาษีบริโภคอีก 5% ราคารวมก็จะอยู่ที่ 1260 เยน และถ้าหากผมซื้อในตอนที่อัตราภาษี 10% ผมก็จะต้องซื้อในราคา 1320 เยน (แพงขึ้นอีก 60 เยน)
และมาดูซีดีเพลงอีกสองแผ่นที่ผมซื้อมาตอนที่อัตราภาษีบริโภคยังอยู่ที่ 8 % (อัตราภาษีนี้ใช้จนถึง 30 กันยายน 2019)
สาเหตุที่ผมบอกว่าเป็นซีดีเพลงสองแผ่น ก็เพราะว่าผมซื้อสองแผ่นมาพร้อมกันในเวลาเดียวกันนั่นเอง ซึ่งซีดีเพลงสองแผ่นนี้ก็เป็นอัลบั้มที่โด่งดังจากวงร็อคจากสหรัฐอเมริกา วง Chicago
ซึ่งด้านซ้ายก็เป็นอัลบั้ม Chicago 16 (ออกวางจำหน่ายปี 1982 มีเพลงที่ดังอย่าง Hard to Say I’m Sorry และ Love Me Tomorrow) และด้านขวาก็เป็นอัลบั้ม Chicago 17 (ออกวางจำหน่ายปี 1984 มีเพลงที่ดังอย่าง Stay The Night และ You’re the Inspiration)
โดยราคาของแผ่นซีดีทั้งสองแผ่นนี้ ผมจำราคาที่แน่นอนไม่ได้ เอาเป็นว่าผมจำได้แค่ราคาคร่าวๆ ถ้ายังไม่รวมภาษีราคาจะอยู่ที่แผ่นละ 990 เยน และเมื่อรวมกับภาษีบริโภคอีก 8% ราคารวมก็จะอยู่ที่ 1069 เยน และถ้าหากผมซื้อในตอนที่อัตราภาษี 10% ผมก็จะต้องซื้อในราคา 1089 เยน (แพงขึ้นอีก 20 เยน)
…………………….
และนอกจากนี้ยังมีเรื่องบังเอิญเกี่ยวกับการที่ผมซื้อสินค้าซึ่งเป็นซีดีเพลงในตอนที่อัตราภาษียังอยู่ที่ 5% และ 8% ที่ว่าไว้นี้
ซึ่งเรื่องบังเอิญนั้นก็คือ ผมซื้อซีดีเพลงแผ่นเหล่านี้มาจากสถานที่เดียวกัน!!!!
และรู้มั๊ยว่าสถานที่นั้นคืออะไรและอยู่ที่ไหน???
ใบ้ให้ว่าอยู่ที่ Shibuya
ถ้าใครรู้แล้ว (หรือว่ายังไม่รู้ แต่อยากจะรู้) ก็ลองเลื่อนลงดูสิว่าจะตรงกับที่ทายไว้หรือเปล่า???
ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ…………
ร้าน Tower Records สาขา Shibuya นั่นเอง!!!
ซึ่งร้านนี้ก็น่าจะเป็นที่รู้จักสำหรับคนที่ชอบหาซื้อซีดีเพลงแนวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงอนิเมะ, J-POP, J-ROCK หรือเพลงสากลทั่วโลก ก็มีรวมไว้อยู่ที่นี้หมดแล้ว : )
เหมือนกับร้านค้าอื่นๆในญี่ปุ่น เมื่อภาษีบริโภคจะถูกปรับขึ้นใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2019 นี้ ราคาซีดีเพลงทุกแผ่นในร้าน Tower Records ก็จะต้องคิดรวมกับภาษีใหม่ที่อยู่ในอัตรา 10%
แต่ว่าสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างผม ก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่ เพราะ Tower Records (รวมไปถึงร้านค้าอื่นๆ) ก็มีบริการคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว โดยต้องดูเงื่อนไขที่ทางร้านกำหนดว่าจะต้องซื้ออย่างน้อยในราคาเท่าไหร่ถึงจะใช้สิทธิ์ขอคืนภาษีได้
ถ้าซื้อไม่ถึงที่ทางร้านกำหนด ก็ต้องจ่ายภาษีบริโภค 10% ตามปกติ (โดยทั่วไปที่ผมเช็คมาจากร้านค้าอื่นๆ ยอดขั้นต่ำที่ต้องซื้อจะอยู่ที่ 5000 เยนและไม่รวมภาษี ไว้ผมไปอีกที ผมจะมา Update ให้ละกัน)
UPDATED 2020: ผมไปเช็คมาแล้ว Tower Records สามารถใช้บริการคืนภาษีได้โดยต้องมียอดขั้นต่ำในการซื้ออยู่ที่ 5000 เยนเหมือนกับร้านค้าอื่นๆนะ
ใครก็ตามที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงที่ภาษีบริโภคปรับขึ้นเป็น 10% ละก็ เตรียมวางแผนค่าใช้จ่ายในการเที่ยวไว้ให้ดีละกัน
ส่วนใครที่จะไปเที่ยวในเดือนกันยายนนี้ (ที่ภาษีบริโภคยังอยู่ที่ 8%) และอยากซื้อสินค้าอะไรก็ตาม ก็คิดให้ดีละกันว่าอยากจะซื้อจริงๆหรือเปล่า?? เพราะถ้าหากซื้อตอนนี้ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ (ในกรณีที่ไม่สามารถขอคืนภาษีได้นะ) ดีกว่าไปซื้อในตอนที่ภาษีบริโภคปรับขึ้นเป็น 10% แล้ว
_________________________________________