ถ้าผมจำไม่ผิด ครั้งสุดท้ายที่มีสมาชิกพรีเคียวที่ปรากฏตัวช้าสุดในซีรี่ส์ (ถ้าไม่นับการปรากฏตัวของสมาชิกใหม่ในช่วงกลางของซีรี่ส์ ซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณเดือน มิ.ย. – ก.ค.) น่าจะเป็นเมื่อปี 2011 ตอนที่ Suite Precure กำลังออกอากาศในขณะนั้น ซึ่งก็คือ Cure Muse
และกรณีแบบนี้ในที่สุดก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งใน Hirogaru Sky! Precure ก็คือการปรากฏตัวของ Cure Majesty สมาชิกพรีเคียวคนที่ 5 ของทีม ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นใครที่ไหนนอกจากเจ้าหญิง Eru นั่นเอง
**Screenshots ทั้งหลายที่เอามาเป็นลิขสิทธิ์ของ Toei Animation**

อันที่จริงผมอาจจะต้องย้อนกลับไปนิดนึงตั้งแต่ตอนที่ 31 เพราะถือว่าเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ Cure Majesty เพียงแต่ว่าเป็นการปรากฏตัวแบบไม่นานมาก ในความรู้สึกของผมกับการปรากฏตัวของเธอนั้นเหมือนกับฉากแบบ “เทวดามาโปรด” (ใครที่ไม่รู้ที่มาของคำนี้ ลองไปค้นหาอ่านดูได้ ผมไม่ขออธิบายในนี้) เพื่อที่จะปราบ Skearhead ให้ได้ และ Skearhead ก็ต้องยอมถอยไป (เดี๋ยวผมจะเขียนในตอนท้าย)
วกกลับมาในตอนที่ 32 ที่เริ่มจากพวก Sora สงสัยกันว่า Cure Majesty คือใครกันแน่ แต่ความสงสัยก็สิ้นสุดลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าหญิง Eru เป็นผู้เปิดเผยบอกกับทุกคนว่าเธอเนี่ยแหละคือ Cure Majesty ซึ่งเป็นการเปิดเผยตัวแบบง่ายมาก (คือง่ายจริงๆแบบไม่ต้องรอให้ถึงเหตุการณ์ที่ต้องสู้กับเหล่าวายร้าย หรือไม่ใช่เป็นการหักมุมอีกทีนะ) แต่ก็ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเธอคือ Cure Majesty จริงๆ
และด้วยความพยายามของเจ้าหญิง Eru ที่จะหาหนทางให้ได้ที่จะแปลงร่างเป็น Cure Majesty และด้วยวิธีการต่างๆแล้ว เธอก็ยังไม่สามารถแปลงร่างได้อยู่ดี ซึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
แต่ท้ายสุดเธอก็สามารถแปลงร่างเป็น Cure Majesty ได้ก็เพราะการปรากฏของ Mirage Pen ที่เกิดจากความต้องการของเธอที่จะปกป้องทั้ง Sora, Mashiro, Tsubasa และ Ageha (และถือว่าเป็นอุปกรณ์แปลงร่างที่สำคัญที่สมาชิกทุกคนในทีม Hirogaru Sky! จะต้องมี) ซึ่งก็นำไปสู่การปราบ Minoton (ที่ถูกควบคุมโดย Skearhead) ได้ในที่สุด แม้ไม่ใช่เป็นการปราบถาวรก็ตาม

มาถึงตรงนี้ การที่เจ้าหญิง Eru ได้กลายมาเป็นสมาชิกพรีเคียวคนที่ 5 ของทีม Hirogaru Sky! ในนาม Cure Majesty นั้น ก็ทำให้ผมฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้หลังจากที่ได้รับชมไป นั่นก็คือสิ่งที่สมาชิกทั้ง 5 คนในทีม Hirogaru Sky! ต่างมีร่วมกัน
เพราะสิ่งที่สมาชิกทั้ง 5 คนต่างมีร่วมกันก็คือความปรารถนาที่อยากจะปกป้องคนที่เรารักและห่วงใย (ซึ่งผมจำได้ว่าเคยเขียนไว้บ้างแล้วในรีวิวตอนที่ 23) รวมไปถึงการคิดถึงจิตใจและหัวอกของแต่ละฝ่ายด้วยกันในทีมรวมไปถึงผู้คนรอบข้างด้วย
ซึ่งความปรารถนาที่อยากจะปกป้องคนที่เรารักและห่วงใยของแต่ละคนในทีมก็ทำให้เกิด Mirage Pen ของแต่ละคนขึ้นมาที่แปลงมาเป็น Sky Mirage ที่สามารถทำให้แต่ละคนนั้นแปลงร่างเป็นพรีเคียวได้
เพื่อความชัดเจน ผมอยากจะไล่ย้อนเรียงตั้งแต่เริ่มต้นว่าสมาชิกแต่ละคนนั้นที่ได้มาเป็นพรีเคียวเกิดจากการที่แต่ละคนอยากจะปกป้องใครบ้าง….
Sora Harewataru หรือ Cure Sky / อยากจะปกป้องเจ้าหญิง Eru และ Mashiro จากตอนที่ 1
Mashiro Nijigaoka หรือ Cure Prism / อยากจะปกป้อง Sora จากการที่ถูก Ranborg ตัวหนึ่งจับตัว จากตอนที่ 4
Tsubasa Yuunagi หรือ Cure Wing / อยากจะปกป้องเจ้าหญิง Eru จากตอนที่ 9
Ageha Hijiri หรือ Cure Butterfly / อยากจะปกป้องเด็กนักเรียนและเพื่อนครูด้วยกันจากโรงเรียนที่เธอเป็นครูฝึกหัดสอน (โดยเฉพาะ Takeru) รวมไปถึงพวก Sora ด้วย จากตอนที่ 18
เจ้าหญิง Eru หรือ Cure Majesty / อยากจะปกป้องสมาชิกทุกคนในทีม ทั้ง Sora, Mashiro, Tsubasa และ Ageha จากตอนที่ 32
ซึ่งก็คงจะนึกภาพกันออกละนะ
และถึงแม้ว่าสมาชิกแต่ละคนจะมีบุคลิก, นิสัย และพื้นเพที่แตกต่างกันไป ทุกคนในทีมต่างก็เป็นฮีโร่ของกันซึ่งกันและกันมาตลอดมา : )

ส่วนรายละเอียดอื่นๆในตอนที่ผมก็ยังคาใจอยู่นิดนึง ก็คงจะเป็นสถานภาพของตัวเจ้าหญิง Eru ที่ร่างกายของเธอจะกลายเป็นเด็กวัยรุ่นเฉพาะก็ต่อเมื่อแปลงร่างเป็น Cure Majesty เท่านั้น เมื่อกลับสู่ร่างปกติก็จะเป็นเด็กเหมือนเดิม (แต่เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นเด็กแห่งโชคชะตา) ไม่รู้เหมือนกันว่าในตอนต่อๆไปเธอจะสามารถใช้ร่างที่เป็นเด็กวัยรุ่นในการทำอะไรอย่างอื่นๆได้หรือเปล่า (นอกจากเป็น Cure Majesty) ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมอยากจะเห็นนะ
และท้ายสุดที่ผมคงจะไม่เขียนถึงไม่ได้ ก็คือสถานะของจักรวรรดิ Underg ที่เรารู้แล้วว่าผู้นำก็คือจักรพรรดินี Underg ผู้ที่มีแผนการที่จะลักพาเจ้าหญิง Eru ให้มาอยู่ในครอบครอง แต่แล้วด้วยพลังยิ่งใหญ่บางอย่างของเจ้าหญิง Eru ที่ทำให้ตัวจักรพรรดินีเปลี่ยนในไม่เอาเจ้าหญิง Eru แล้ว แต่สั่งให้กำจัดแทนผ่านลูกน้องที่มีนามว่า Skearhead ซึ่งดูจากรูปลักษณ์แล้ว เป็นคนที่เย็นชาและมีพลังที่แกร่งมากจริงๆ (แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วชะตาชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรนะ) และผมคาดว่าหลังจากนี้ Skearhead ก็คงจะมีบทบาทมากขึ้นในเนื้อเรื่องหลังจากนี้
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นการรีวิวตอนที่ 32 ของ Hirogaru Sky! Precure ที่ผมอยากจะเขียนก็มีเพียงเท่านี้ คงจะต้องรอให้มีเหตุการณ์สำคัญๆหรือสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นในซีรี่ส์แล้วผมถึงค่อยมาเขียนรีวิวถัดไปก็แล้วกัน
**และอีกนิดนึง ตอนนี้ภาพยนตร์ Precure All Stars F ก็ได้เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ทั่วญี่ปุ่นแล้ว ผมคาดว่าน่าจะมีโอกาสได้ไปชมตัวภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์จากทริปญี่ปุ่นที่ผมจะไปในเร็วๆนี้ ดูจากตัวอย่างแล้ว น่าติดตามมาก**
________________________________________
คุณต้อง เข้าสู่ระบบแล้ว เพื่อส่งแสดงความเห็น.