ว่าด้วยเรื่องของการไม่เสียใจกับเรื่องบางเรื่องในชีวิตที่ผมได้ทำลงไปในช่วงชีวิตของผมที่ผ่านๆมา………

เป็นความตั้งใจของผมที่อยากจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้นานแล้ว (แม้ว่าผมจะลืมไปหลายครั้งก็ตามแต่) และผมคิดว่านี่น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ผมจะได้เขียนเรื่องนี้ในสถานการณ์แบบนี้ (ที่น่าจะเรียกว่าไม่ค่อยเป็นใจนักสำหรับหลายๆคน) ที่ตอนนี้เราก็ได้ผ่านพ้นช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 แล้ว

หลายคนคงน่าจะเคยชินกับการที่ได้ยินประโยคที่แบบว่า…….

“เสียใจที่ไม่ได้ทำลงไป”

“รู้อย่างนี้น่าจะทำไปตั้งแต่แรก”

หรือ “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็น่าจะทำแบบนี้” เป็นต้น

คือทุกครั้งที่ผมได้ยินประโยคต่างๆเหล่านี้จากคนที่พูด ไม่ว่าคนที่พูดคนนั้นจะเป็นใครก็ตามแต่ ก็มักจะทำให้ผมสงสัยและชวนคิดว่าคนที่พูดประโยคเหล่านี้เสียใจไปกับเรื่องอะไรที่ไม่ได้ทำลงไป???

เพราะเรื่องที่ทำให้เสียใจอาจจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน, เรื่องการเรียน, เรื่องทางเศรษฐกิจ, เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล, เรื่องงานอดิเรก, เรื่องที่มีความอ่อนไหว หรืออาจจะเป็นเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไปที่อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตมากเท่าไหร่

แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ผมก็คิดว่าคนที่พูดประโยคแบบนี้แต่ละคน ก็คงจะเอาเรื่องที่ตัวเองเสียใจนำไปเป็นบทเรียนแก้ไขตัวเองเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้มีเรื่องแบบนี้ที่ทำให้ต้องเสียใจไปอีกในอนาคต

จะว่าไปแล้ว ตัวผมเองก็ยอมรับว่าในช่วงชีวิตที่ผ่านๆมาของผมก็เคยมีเรื่องบางเรื่องที่ทำให้ผมเสียใจบ้าง เท่าที่ผมพอจะจำได้ก็น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียน, การตัดสินใจอะไรที่สำคัญมากๆ หรือการทำกิจกรรมบางอย่างที่ผมสามารถทำได้ (ในช่วงอายุในขณะนั้น) แต่ผมกลับปฏิเสธที่จะทำ จนทำให้ผู้ใหญ่บางคนถึงกับบอกว่า “น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ทำ” อะไรแบบนี้

แต่เอาเข้าจริง ถ้าผมย้อนนึกกลับไปในช่วงต่างๆของชีวิตผมที่ผ่านๆมา ผมคิดว่าผมไม่รู้สึกเสียใจเลยกับเรื่องบางเรื่องในชีวิตของผมที่ผมได้ทำลงไป เผลอๆถ้าเทียบกับเรื่องที่ผมเสียใจนั้น เรื่องที่ผมไม่เสียใจอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

สาเหตุส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากที่ผมได้เรียนรู้ในเรื่องต่างๆในชีวิตที่ผมไม่ได้ทำลงไปแล้วมารู้สึกเสียใจในภายหลัง

คือเรื่องต่างๆบางเรื่องที่ผมได้บอกว่าไม่รู้สึกเสียใจนั้น ก็มีหลายอย่าง ตั้งแต่การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่รู้จัก, การทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวผมเอง, การเรียนรู้ทักษะต่างๆในโลกปัจจุบัน, การช่วยเหลือคนอื่นในยามจำเป็น, การเลือกทานอาหาร, หรือแม้แต่การทำอะไรที่เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต (ที่ไม่ได้มีโอกาสง่ายๆที่จะทำ)

ซึ่งผมมองว่าปัจจัยหลักที่เป็นตัวที่ทำให้ผมไม่รู้สึกเสียใจกับเรื่องต่างๆบางเรื่องในชีวิตที่ผมได้ทำลงไปนั้น ก็น่าจะมาจากความตั้งใจของผมที่จะทำเรื่องนั้นๆ รวมไปถึงการเห็นคุณค่าในเรื่องนั้นๆที่ผมจะทำ

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ผมจะยกตัวอย่างเรื่องหนึ่งที่ผมยังจดจำได้จนถึงทุกวันนี้ที่ทำให้ผมไม่รู้สึกเสียใจที่ได้ทำลงไป…….

เรื่องนี้ถ้านับจนถึงตอนนี้ก็น่าจะ 15 ปีมาแล้ว ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ผมเคารพนับถือ ได้ชวนให้ผมไปทานอาหารกับเขามื้อหนึ่งที่ห้างใกล้ๆบ้าน เนื่องจากว่าลูกๆของญาติคนนี้ไม่มีใครว่างที่จะไปทานอาหารด้วย

ตอนที่ผมได้ยินทีแรกผมก็รู้สึกแปลกใจนิดๆ เพราะปกติญาติของผมคนนี้ไม่ค่อยชวนผมไปทานอาหารด้วยกัน ถ้าไม่ได้ไปกันหลายสิบคน

แต่ด้วยความที่ผมว่างในช่วงนั้นจริงๆ ผมเลยตอบรับที่จะไปทานอาหารกับเขา ซึ่งอาหารที่ไปทานกันในวันนั้นที่ห้างผมจำได้ว่ามีบะหมี่อยู่ด้วย (ส่วนที่เหลือจำไม่ได้)

ส่วนรายละเอียดอื่นๆในวันนั้นที่ผมได้ไปทานอาหารกับญาติ ผมจำไม่ได้จริงๆ รู้แต่ว่าใช้เวลาในการทานอาหารไม่ถึง 2 ชั่วโมง และเมื่อจะกลับบ้าน ญาติคนนี้ก็ขอบคุณผมที่ได้มาทานอาหารกับเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่ผมไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก

โดยหารู้ไม่ว่ามื้ออาหารนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของผมและญาติคนนี้

เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล และจากไปอย่างสงบในที่สุด

เมื่อผมย้อนกลับมานึกถึงในวันนั้นที่ผมตอบตกลงกับญาติคนนี้ว่าจะไปทานอาหารด้วยกัน ก็ทำให้ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจเลย ในทางกลับกันผมกลับรู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้สร้างช่วงเวลาแห่งความสุขในบั้นปลายชีวิตของเขา : )

และก็มีตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมไม่รู้สึกเสียใจที่ได้ทำเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานนี้ ก็เกี่ยวข้องเป็นญาติผู้ใหญ่ของผมเหมือนกัน

โดยผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันรวมญาติที่ร้านอาหาร และผมก็ได้มานั่งข้างๆกับญาติคนนี้บนโต๊ะอาหารเดียวกัน

ทีนี้ ในระหว่างที่กำลังทานอาหารกัน ก็มีอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ผมแทบจะไม่ค่อยมีรูปถ่ายคู่กับญาติคนนี้เลย

ด้วยความไม่รอช้า ผมตัดสินใจหยิบ Smartphone ของผมขึ้นมาถ่ายรูปแบบ  Selfie กับญาติคนนี้ ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ได้ว่าผมอะไร คือในระหว่างที่ถ่ายรูป ผมกับญาติก็นั่งคุยกันตามประสาคนทั่วไประหว่างมื้ออาหาร

และผมก็อยากจะบอกว่าตอนที่ผมถ่ายรูปกับญาติคนนี้ ผมรู้สึกว่ามันเหมือนกับมีสัญญาณอะไรล่วงหน้าบางอย่างที่ผมพอจะสัมผัสและรู้ได้ เหมือนกับว่าการถ่ายรูป Selfie ครั้งนี้มีอะไรที่พิเศษจริงๆ

เพราะท้ายสุดหลังจากนั้น 2 เดือน ญาติของผมคนนี้ประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้และเสียชีวิตในที่สุด

เท่ากับว่าในวันนั้นถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้ถ่ายรูป Selfie กับญาติของผมคนนี้ และเช่นกันเหมือนกับตัวอย่างเรื่องแรก ผมก็ไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป อย่างน้อยรูปถ่าย Selfie นี้ก็จะเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างผมและญาติคนนี้ รวมไปถึงญาติคนอื่นๆเมื่อได้มาเห็นรูปถ่าย : )

และตัวอย่างเรื่องทั้งสองเรื่องนี้ก็น่าจะอธิบายได้ชัดเจนเกี่ยวกับการที่ผมไม่รู้สึกเสียใจกับเรื่องบางเรื่องในที่ผมได้ทำลงไปในช่วงชีวิตของผมที่ผ่านๆมา

อย่างน้อยผมก็พอกล้าที่จะพูดได้ว่า “ไม่มีอะไรที่ติดค้างคาใจอีกต่อไปกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป และก็รู้สึกดีใจด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆเหล่านี้จากความทรงจำของผม” : )

และอย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ การที่ผมไม่รู้สึกเสียใจกับเรื่องบางเรื่องที่ได้ทำลงไปก็มาจากความตั้งใจของผมที่จะทำและการเห็นคุณค่าในสิ่งที่ผมได้ทำลงไป

หวังว่าในอนาคตของผมหลังจากนี้ (รวมไปถึงคนอื่นๆ) ก็คงจะได้พบเจอเรื่องต่างๆที่เมื่อได้ทำลงไปแล้วจะไม่เสียใจเช่นเดียวกับเรื่องบางเรื่องในช่วงชีวิตที่ผ่านๆมา

_______________________