ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีจริงๆสำหรับรีวิวตอนสุดท้ายของ Wonderful Precure!
แต่เอาเป็นว่าผมจะเขียนรีวิวนี้ให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ : )
อย่างแรกก็คือในที่สุด Subaru ได้สำนึกและยอมรับผิดกับสิ่งที่ตัวเองได้กระทำมาตลอด ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Subaru กลับใจได้ก็คือเมื่อตอนที่เขาได้ใช้พลังของเขาในการปราบ Komugi จนสลบ (จากตอนที่ 49) ซึ่งตรงจุดนี้เองก็ทำให้เขาระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ตัวเขาพยายามที่จะปกป้อง Gaou จากการถูกทำร้ายจากชาวบ้านในชุมชน แต่เขาก็ไม่สามารถปกป้อง Gaou ได้ เลยทำให้เขาเสียใจเป็นอย่างมากและจึงเป็นที่มาของการแก้แค้นกลับของเขา (ในนาม Gaou)
**Screenshots ทั้งหลายที่เอามาเป็นลิขสิทธิ์ของ Toei Animation**

อย่างไรก็ตาม การแก้แค้นของ Subaru กลับเป็นการตอกย้ำของการใช้ความรุนแรงที่มีต่อสัตว์ซึ่งไม่ใช่เป็นสิ่งที่ Subaru ต้องการตั้งแต่แรกเลย แต่ด้วยคำพูดของ Komugi (ที่ฟื้นกลับขึ้นมา) ที่ได้บอกกับ Subaru ว่าถ้าหาก Subaru เจ็บปวดหรือเสียใจมากเพียงใด ก็ทำให้ Gaou รู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย และสิ่งที่ Subaru ได้แก้แค้นมาตลอดก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ Gaou ต้องการ
เพราะสิ่งที่ Gaou ต้องการที่แท้จริงจาก Subaru ก็คือความรักและมิตรภาพดีๆที่มีให้แก่กันตลอด รวมไปถึงหมาป่าตัวอื่นๆในกลุ่มและสัตว์ทั้งหลายบนโลกใบนี้
และหลังจากที่เหล่าพรีเคียวได้ช่วยชีวิต Subaru ไว้ ทันใดนั้น Gaou ตัวจริง (ที่น่าจะเป็นวิญญาณ) ก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนและบอกความในใจที่มีต่อ Subaru ว่าตัวเองอยากจะขอโทษ Subaru ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ Subaru ต้องเสียใจ แต่ไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร Subaru ก็คือเพื่อนที่ดีคนหนึ่งสำหรับ Gaou และเหล่าหมาป่าทั้งหลาย รวมไปถึงมนุษย์คนอื่นๆที่อยู่ตรงนี้ที่มีจิตใจเมตตาและรักสัตว์เหมือนกับ Subaru ซึ่งก็คือ Iroha, Mayu และ Satoru
ตรงนี้เองก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สมาชิกทุกคนในทีม Wonderful Precure! ได้เป็นสักขีพยานในการได้เห็น Subaru และ Gaou ปรับความเข้าใจกันได้อีกครั้ง ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงคุณค่าในมิตรภาพระหว่างมนุษย์กับสัตว์ และเมื่อถึงเวลาอันสมควร ทุกคนในทีม Wonderful Precure! ก็ได้ร่ำลาทั้ง Subaru, Gaou และ Zakuro (ที่ได้กลายร่างกลับมาเป็นหมาป่าแล้ว) รวมไปถึง Torame (ที่ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระไปก่อนหน้านี้) และหมาป่าตัวอื่นๆที่รอกันอยู่อีกฝั่ง เพื่อที่กลุ่มของ Subaru และ Gaou จะได้ไปในอีกภพนึงหลังความตาย (ตามที่ผมเข้าใจ) ซึ่งก็ถือว่าเป็นการลาจากกันด้วยดี

และแม้ว่านี่จะเป็นการร่ำลาครั้งสุดท้ายแล้ว (กับ Subaru และ Gaou) ก็ยังต้องมีการร่ำลาอีกครั้ง เมื่อ Niko และ Mee-Mee ต้องกลับไปที่ Niko Garden ทันที (เนื่องจากว่าการต่อสู้ได้สิ้นสุดลงแล้ว แม้ว่า Mee-Mee ยังไม่อยากกลับก็ตาม) ส่งผลให้อุปกรณ์แปลงร่างของ Komugi, Iroha, Yuki และ Mayu ต้องถูกเรียกคืนกลับไปที่ Niko Garden ด้วย และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้ Komugi และ Yuki (รวมไปถึง Daifuku ที่ได้เป็นมนุษย์ไม่นานจากตอนที่ 49) กลายร่างกลับไปเป็นสุนัขและแมว (และเป็นกระต่าย) เหมือนเดิม โดยที่ไม่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์และพูดคุยได้อีกต่อไป (เป็นสิ่งที่ผมคิดไว้ไม่ผิด)
แต่ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ชีวิตของพวก Iroha, Mayu และ Satoru ยังคงต้องดำเนินต่อไป

ซึ่งเนื้อเรื่องช่วงหลังในตอนสุดท้ายก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตปกติของทั้งสามใน Animal Town ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนที่ไม่มี Komugi และ Yuki ที่เป็นนักเรียนอีกแล้ว หรือจะเป็นที่สนามสาธารณะที่ทั้งสามจะมาใช้เวลาว่างกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง คือมันเหมือนกับเป็นการเรียกตัวเองให้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงสักที และจริงอยู่ที่ Iroha ยังมี Komugi อยู่ข้างกาย แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าเธออาจไม่สามารถสื่อสารกับ Komugi ได้ชัดเจนเหมือนกับตอนที่ Komugi สามารถพูดภาษามนุษย์ได้
แต่ไม่รู้ว่าเป็นคำปรารถนาของฝ่ายใด เมื่อ Mirror Stone (ที่กลับสู่สภาพเดิม) ได้เปล่งแสงออกมา จึงทำให้ทั้ง Komugi, Yuki และ Daifuku สามารถพูดได้อีกครั้ง สร้างความดีใจให้กับ Iroha, Mayu และ Satoru เป็นอย่างมากที่จะได้พูดคุยกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองได้แบบตรงๆ รวมไปถึง Mee-Mee ที่สามารถมาเยือน Animal Town ได้เป็นครั้งคราว (ตามคำอนุญาตจาก Niko) แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงที่จะถูก Daifuku ลงโทษแล้วแต่สถานการณ์ : )
สรุปคือตอนสุดท้ายของ Wonderful Precure! เป็นการจบแบบ Happy Ending ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่มีอะไรค้างคาใจหลังจากที่ชมจบไปแล้ว

โดยส่วนตัว ผมมองว่าตอนสุดท้ายของ Wonderful Precure! น่าจะเป็นบทสรุปได้ว่ามิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมนุษย์กับสัตว์เป็นอะไรที่มีคุณค่าและมีความหมาย โดยเฉพาะกับคนที่มีสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัข, แมว, กระต่าย หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ
อย่างที่ผมเคยได้เขียนไว้จากรีวิวตอนแรก: Wonderful Precure! สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตจริงในสังคมทั่วโลกที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสัตว์เลี้ยงมีความสำคัญต่อมนุษย์มาก
ตัวผมเอง ในฐานะที่เคยมีสัตว์เลี้ยง (แบบไม่ได้ตั้งใจ) ก็พอที่จะเข้าใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวก็มีจิตใจและมีความคิดเป็นของตัวเอง แม้ว่าพวกมันจะไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาพูดเหมือนมนุษย์ได้ แต่พวกมันก็จะใช้ภาษากายในการสื่อสารและรวมไปถึงการแสดงออกในเรื่องต่างๆ อาจจะเป็นเรื่องความรัก, ความสงสัย, การเรียกร้องความสนใจ, การขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่การร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเจ้าของของตัวเองในบางช่วงเวลา
และไม่ว่าแต่ละคนที่มีสัตว์เลี้ยงแบบไหน สัตว์เลี้ยงทุกตัวย่อมที่อยากจะได้รับความรัก, ความเอาใจใส่ และความผูกพันจากเจ้าของทุกคน เหมือนกับ Komugi, Yuki และ Daifuku (รวมไปถึง Gaou ด้วย) และก็น่าจะเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์หากเราสามารถสร้างความทรงจำดีๆกับสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ในทุกช่วงเวลา

อีกทั้งผมก็เชื่อว่ามนุษย์กับสัตว์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบและสันติสุข หากแต่ละฝ่ายเคารพซึ่งกันและกันและมีเมตตาต่อกัน : )
ซึ่งผมก็คิดว่าคงจะมีเพียงเท่านี้แหละสำหรับการรีวิวตอนสุดท้ายของ Wonderful Precure! ที่มีจำนวนตอนทั้งหมด 50 ตอน (จำนวนเท่ากับ Hirogaru Sky! Precure)
……………….
และแน่นอนเช่นเคย สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับตอนสุดท้ายของพรีเคียวทุกซีรี่ส์ (ตั้งแต่ Happiness Charge Precure!) ก็คือการส่งไม้ต่อให้กับผู้นำของพรีเคียวทีมถัดไป ซึ่งครั้งนี้ก็คือ Cure Idol หรือ Uta Sakura จากทีม Kimi to Idol Precure ซึ่งจะเป็นซีรี่ส์พรีเคียวลำดับที่ 22 โดยธีมของเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่ไอดอลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิงในญี่ปุ่นปัจจุบัน (ในตอนสุดท้ายของ Wonderful Precure! นั้น Cure Idol ก็ได้ปรากฏตัวสั้นๆจากคลิปวิดีโอใน Smartphone ของ Mayu ที่ทำให้ Yuki ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่นะ)

มาถึงตรงนี้ ผมมีเรื่องสำคัญที่จะต้องประกาศให้ทราบ แม้ว่าเรื่องนี้อาจดูไม่ได้มีผลกระทบอะไรเลยกับบล็อกนี้ แต่ผมก็อยากจะประกาศไว้ตรงนี้ จะได้ไม่สงสัยกันนะ
ถ้าใครที่ติดตามบล็อกผมมานานก็น่าจะทราบว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงบัดนี้) ผมได้เขียนรีวิวพรีเคียวจากตอนต่างๆของแต่ละซีรี่ส์ นับตั้งแต่ Star Twinkle Precure จนถึง Wonderful Precure! ที่เพิ่งจบไปล่าสุด
ผมอยากจะบอกจากใจว่า ทุกครั้งที่ผมเขียนรีวิวเหล่านี้ ผมเขียนออกมาจากใจจริงและความคิดของผมเองโดยที่ไม่มีคนอื่นชี้นำว่าผมจะต้องเขียนแบบนั้นเขียนแบบนี้ และบางครั้งสิ่งที่ผมเขียนรีวิวไปก็อาจไม่เหมือนรีวิวของคนอื่นๆ
และอย่างที่เห็นที่ผ่านๆมา ผมจะเลือกเขียนรีวิวเฉพาะบางตอนของซีรี่ส์ โดยเฉพาะตอนที่สำคัญๆหรือไม่ก็เป็นตอนที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับผู้ชมที่สามารถเรียนรู้ได้ (ถ้าสังเกตให้ดี ผมจะเขียนรีวิวทั้งตอนที่ 1 และตอนสุดท้ายของทุกๆซีรี่ส์) แต่ก็มีบ้างที่ผมเลือกเขียนรีวิวที่มาจากความชอบส่วนตัวของผม ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรนะ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังๆที่ผ่านมานี้ เวลาที่ผมจะเลือกเขียนรีวิวตอนใดตอนหนึ่งจากซีรี่ส์ ผมต้องใช้เวลานานมากในการคิดว่าจะเขียนรีวิวและเรียบเรียงเนื้อหาอย่างไร อีกทั้งผมก็ต้องยอมรับว่าการรีวิวของผมไม่อาจทำให้คนที่อ่านทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมได้เขียนลงไป (คืออย่างน้อยสำหรับคนที่อ่านก็จะได้เห็นมุมมองและความคิดใหม่ๆที่แตกต่างกันไป)
รวมไปถึงการที่ผมเคยได้เขียนไว้ตอนส่งท้ายปี 2024 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับสุขภาพส่วนตัวของผมที่มีผลกระทบบ้างในการเขียนบล็อก รวมไปถึงภาระหน้าที่การงานต่างๆที่ผมต้องรับผิดชอบ อย่างที่ได้บอก บล็อกแต่ละเรื่องต้องใช้เวลานานมากในการคิดและเรียบเรียงกว่าจะเป็นเรื่องนึงออกมา (แม้บางคนอาจมองว่าไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งผมก็ไม่คัดค้าน) และถึงแม้ว่าผมยังสามารถที่จะเขียนบล็อกได้ ผมอยากมีเวลาที่อยากจะทำอย่างอื่นบ้างนอกจากเขียนบล็อกนี้
และที่สำคัญ ผมก็ใช้เวลานานมากในการคิดและพิจารณาแล้วว่าสิ่งที่ผมกำลังจะประกาศต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมในขณะนี้
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอประกาศตรงนี้ว่า ผมจะหยุดการเขียนรีวิวซีรี่ส์พรีเคียวตั้งแต่ Kimi to Idol Precure เป็นต้นไปแบบไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงในอนาคต (อันนี้ก็รวมไปถึง Mahou Tsukai Precure! ภาค 2 ด้วย) ส่วนบล็อกเรื่องอื่นๆในนี้ (จะเป็นเรื่องญี่ปุ่น, เรื่องเตาแก๊ส หรือเรื่องอื่นๆ) ผมก็ยังจะเขียนตามปกติ เพียงแต่ว่าจำนวนเรื่องจะน้อยลงกว่าปีก่อนๆ ตามที่เคยได้บอกไว้
อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงติดตามซีรี่ส์พรีเคียวตามปกติเหมือนเดิมเหมือนกับแฟนๆพรีเคียวคนอื่นๆทั่วโลก (ไม่หนีไปไหน) รวมไปถึงเวลาที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกครั้งผมก็จะแวะ Precure Pretty Store เช่นเคยถ้ามีโอกาสแวะผ่าน ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวว่าผมจะตกข่าวในเรื่องพรีเคียวนะ : )
ท้ายสุด ผมก็หวังว่าคนที่เคยอ่านรีวิวจากซีรี่ส์พรีเคียวต่างๆทั้งหมดที่ผมได้เขียนไว้คงจะเข้าใจกับสิ่งที่ผมได้ประกาศไปข้างต้น
อีกทั้งผมก็หวังว่ารีวิวทั้งหมดของผมจากซีรี่ส์พรีเคียวทั้ง 6 เรื่อง (จาก 6 ปีที่ผ่านมา 2019 – 2025: ซึ่งประกอบไปด้วย Star Twinkle Precure, Healin’ Good Precure, Tropical-Rouge! Precure, Delicious Party Precure, Hirogaru Sky! Precure และซีรี่ส์สุดท้ายก็คือ Wonderful Precure!) ก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่เป็นแฟนๆพรีเคียวและคนอื่นๆที่ได้เข้ามาอ่านรีวิวของผม รวมไปถึงประเด็นต่างๆและข้อคิดในแต่ละรีวิวที่อาจจะเป็นประโยชน์ในการนำเอาไปใช้ในชีวิตได้
เอาเป็นว่าซีรี่ส์พรีเคียวลำดับที่ 22 Kimi to Idol Precure ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์พรีเคียวที่จะมีเนื้อเรื่องที่สามารถเป็นบทเรียนและให้ข้อคิดในการใช้ชีวิต (แม้ว่าผมจะไม่เขียนรีวิวแล้วก็ตาม) และผมก็หวังว่าซีรี่ส์นี้จะมอบความสนุกสนานและมอบความ Wonderful เหมือนกับซีรี่ส์ที่ผ่านๆมา โดยจะเริ่มออกอากาศตอนแรกในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025 นี้
ขอขอบคุณตรงนี้อีกครั้งนึง และหวังว่าทุกๆคนจะมีชีวิตที่ Wonderful ในฉบับของตัวเอง : )
_______________________________
คุณต้อง เข้าสู่ระบบแล้ว เพื่อส่งแสดงความเห็น.