ส่งท้ายปี 2022 ต้อนรับเข้าสู่ปี 2023 กับสถานการณ์ต่างๆในอนาคตที่เราไม่ควรประมาทและเรื่องสำคัญที่ผมอยากจะบอก…….

ก็เป็นอีกครั้งนึงของปีที่ช่วงเวลาแห่งนี้ได้มาถึง ซึ่งก็คือช่วงเวลาที่จะส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับเข้าสู่ปีใหม่ โดยเฉพาะในปีนี้ที่ผมตั้งหน้ารอคอยอยากให้ช่วงเวลานี้มาให้ถึงเร็วๆ

เหตุผล ไม่ใช่ว่าผมอยากฉลองปีใหม่อะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่ามีเรื่องสำคัญอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะบอก ทีแรกผมกะว่าจะเขียนเป็นบล็อกต่างหาก แต่ผมเปลี่ยนใจเอามาเขียนส่งท้ายปีเลยดีกว่า จะได้เขียนรวมเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องสำคัญเรื่องนี้ผมจะบอกในช่วงกลางๆของบล็อกนี้

แต่ก่อนอื่น ผมก็อยากจะพูดสรุปถึงภาพรวมเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีนี้จากมุมมองของผมก่อนนะ ทั้งภาพรวมของเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้และเรื่องส่วนตัวของผม

โดยภาพรวมแล้วปี 2022 นี้ ผมอยากจะบอกว่าน่าจะเป็นปีที่สถานการณ์โควิด 19 น่าจะคลี่คลายลงไปมาก มากจนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนก่อน เพราะตอนนี้ก็ถือว่าเราก็สามารถอยู่ร่วมกับโควิดได้ โดยที่ไม่ต้องกลัวหรือกังวลมาก (ถ้าเทียบกับในตอนที่ระบาดใหม่ๆ) เพียงแค่ต้องระวังตัวและพยายามไม่อยู่ในสถานที่แออัดหรือสถานที่เสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อได้ (โดยเฉพาะในบางประเทศที่ตอนนี้ก็เริ่มมีการระบาดระลอกใหม่แล้ว)

พูดง่ายๆก็คือ ผมไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกเกี่ยวกับโควิดแล้ว

และถึงแม้ว่าสถานการณ์ของโควิด 19 จะเริ่มสงบแล้วก็ตาม (แม้ว่าบางประเทศอาจจะยังไม่สงบ) แต่ก็มีอีกหนึ่งสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตหลายๆคนตั้งแต่ต้นปี นั่นก็คือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเงินเฟ้อที่ส่งผลให้สินค้าและวัตถุดิบต่างๆนั้นมีการปรับขึ้นราคา ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าเดินทาง, ค่าเช่าต่างๆ เป็นต้น และผมอยากจะบอกว่าปี 2022 นี้ น่าจะเป็นปีที่ผมเห็นจำนวนครั้งของการปรับตัวขึ้นราคาสินค้ามากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในชีวิต !0__0!

อีกทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบนี้ที่ต่อเนื่องไปถึงปีหน้าก็ยังทำให้ผมนึกถึงบทวิเคราะห์และคำทำนายต่างๆว่าในปีหน้า ปี 2023 มีโอกาสที่เศรษฐกิจทั่วโลกจะถดถอยสูง (เห็นได้ชัดจากข่าวต่างๆในเรื่องของการเลิกจ้างพนักงานในบริษัทต่างๆที่มีชื่อเสียง) ซึ่งตัวรายละเอียดผมคงไม่อยากจะพูดถึงมากนัก เพราะผมไม่ใช่กูรูหรือนักวิเคราะห์ในเรื่องเกี่ยวกับทางเศรษฐศาสตร์หรือการเงิน แต่สิ่งที่ผมพอจะทำได้ก็คือผมต้องมานั่งวางแผนว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจนี้จะส่งผลกระทบต่อตัวผมและคนอื่นๆมากขนาดไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานะทางอาชีพและการเงินของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป (รวมไปถึงพฤติกรรมนิสัยการใช้เงินของแต่ละคนด้วย)

ก็เอาเป็นว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในปีนี้และในปีหน้านั้น เราก็ควรเตรียมพร้อมที่จะรับมือและหาทางหนีทีไล่ เพราะถ้าหากคำทำนายเป็นจริงและเมื่อเวลานั้นมาถึงเราจะได้ไม่เจ็บตัวมาก (พูดง่ายๆคือผ่อนหนักให้เป็นเบา) และสามารถใช้ชีวิตให้รอดผ่านพ้นได้ในสถานการณ์แบบนี้ (ที่ไม่รู้ว่าจะใช้เวลายาวนานเท่าไหร่)

นอกจากนี้ก็ยังมีสถานการณ์อีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่ผมติดตามมาตลอด (และผมเองก็เคยพูดถึงเรื่องนี้เมื่อตอนเขียนส่งท้ายปี 2021) ซึ่งก็คือเรื่องของภัยธรรมชาติและภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยภาพรวมในปีนี้ผมก็ได้เห็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศที่น่าจะเรียกได้ว่าอยู่ในภาวะที่หนักหนาสาหัสเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม, แผ่นดินไหว, พายุ, อากาศที่ร้อนจัด รวมไปถึงอากาศที่หนาวจัดแบบลดฮวบลงทันที ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศที่ทำให้การมาและการไปของฤดูกาลต่างๆนั้นผิดแผกไปจากเดิม อย่างเช่นฤดูฝนที่กินเวลายาวนานไปหลายเดือน ซึ่งผมยอมรับว่าตลอดชีวิตผมไม่เคยเห็นมีปีไหนที่ฝนตกหนักยาวมากเท่ากับปี 2022 นี้

ก็ถือว่าเรื่องของภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลกระทบกับทุกชีวิตบนโลกใบนี้จริงๆ และควรที่จะรับมือไม่แพ้กับเรื่องเศรษฐกิจ

ส่วนเรื่องราวเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ในปีนี้ (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) จากมุมมองของผม ผมขอสรุปสั้นๆก็คือ เป็นปีที่มีเรื่องราวและประเด็นต่างๆที่เราควรจะต้องติดตามและให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการเมืองระหว่างประเทศ, การเปลี่ยนแปลงทางสังคม, ความขัดแย้งต่างๆ, เทรนด์กระแสต่างๆที่มาและจากไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงบทบาทของเทคโนโลยีที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตอย่างขาดไม่ได้เลย ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้ก็จะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2023 และปีถัดๆไป โดยเฉพาะบางเรื่องที่อาจจะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราได้

และสำหรับตัวผมเองในปีนี้ ก็ถือว่าเป็นปีที่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับผมตลอดปี โดยเรื่องสำคัญที่กระทบหนักสุดกับตัวผมที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ เรื่องที่ผมป่วยเป็นโควิด 19 ซึ่งก็เป็นตั้งแต่ช่วงต้นปี เลยส่งผลให้ผมห่างหายจากการเขียนบล็อกในช่วงระยะหนึ่ง แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่ผมไม่ได้เป็นหนัก (ไม่เหมือนกับตอนที่ระบาดใหม่ๆ) อาการโดยรวมก็มีเพียงแค่เจ็บคอและไอส่วนใหญ่ (สามารถไปอ่านได้จากที่ผมเคยเขียนลงไว้เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา) และผมก็ได้กักตัวเองทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน

ส่วนเรื่องอื่นๆของผมในปีนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของการจัดการเรื่องธุระต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตัวผมและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านที่ผมอาศัยอยู่ สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด (ในช่วงต้นถึงกลางปี) ที่ทำให้ผมไม่สามารถไปเที่ยวไหนได้ จึงทำให้ผมและคนที่บ้านของผมเห็นตรงเหมือนกันว่านี่จะเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดที่จะซ่อมแซมและปรับปรุงบ้าน ก็เลยถือโอกาสทำในช่วงนี้ไปเลย

เพราะถ้าหากไม่ทำช่วงนี้ก็อาจจะหาเวลาแบบนี้ได้ยากขึ้น และผมได้ยินมาว่าช่วงโควิดที่ผ่านมานี้ คนที่เป็นช่างในด้านงานก่อสร้างมีงานจ้างเข้ามาตลอด (ยาวข้ามไปเป็นเดือนเลย) โดยเฉพาะเรื่องของการซ่อมแซมบ้าน

ซึ่งภาพรวมของปี 2022 จากมุมมองของผมก็คงมีเพียงเท่านี้จริงๆ ไม่อยากจะเขียนเยอะมาก : )

………

มาถึงตรงนี้ อย่างที่ผมได้บอกข้างต้นว่าผมมีเรื่องสำคัญที่อยากจะบอกเพื่อเป็นการส่งท้ายปี โดยก่อนอื่นผมจะขอเริ่มต้นด้วยคำถามต่อไปนี้………

“รู้สึกบ้างไหมว่าทำไมปีนี้เรื่องต่างๆที่ผมเขียนลงบล็อกนี้ดูเหมือนจะสั้นลงกว่าปีก่อนๆ หรือทำไมปีนี้เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนลงอาจจะดูไม่ค่อยน่าสนใจถ้าเทียบกับปีก่อนๆ?????

สำหรับใครที่ไม่เห็นด้วยกับคำถามข้างต้น ผมถือว่าไม่เป็นไร

แต่สำหรับใครที่เห็นด้วยนั้น ผมขอบอกว่า “ถูกต้องแล้วครับ” : )

คืออย่างนี้……

คือเรื่องนี้มันก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแค่ผมรู้สึกว่าเรื่องต่างๆที่ผมเขียนลงบล็อกส่วนมากในปีนี้ดูจะเหมือนสั้นลงไปกว่าเดิมและอาจจะดูไม่ค่อยน่าสนใจ และผมคิดว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจาก……

ผลกระทบจากโควิด 19 ที่ทำให้ผมมีอาการ Long Covid หรือผลข้างเคียงระยะยาวหลังจากที่ผมป่วยเป็นโควิด

สำหรับรายละเอียดของเรื่อง Long Covid สามารถไปค้นหาอ่านได้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้นะ เพราะตรงนี้ผมอยากจะชี้แจงเกี่ยวกับสภาวะของผมในขณะนี้ และต้องบอกว่าการชี้แจงตรงนี้มาจากประสบการณ์ที่ผมเจอด้วยตัวเอง ไม่ใช่จากหมอผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นสิ่งที่จะได้อ่านต่อไปนี้ โปรดอย่าเชื่อทั้งหมด เป็นเพียงแค่ความรู้สึกของผมที่รู้สึกว่าอย่างไรเท่านั้นนะ : )

คือผมต้องบอกว่าหลังจากที่ผมหายป่วยจากโควิดแล้วหลายวัน ผมก็เริ่มสังเกตตัวเองว่าเวลาที่จะคิดหรือจะทำอะไรนั้นจะช้าลงไปกว่าเดิม รวมไปถึงความสามารถในการจดจำของผมมีการถดถอยลงไปบ้างบางส่วน และถ้าหากผมคิดที่จะทำอะไรในบางเรื่องนั้นก็ต้องใช้เวลานานกว่าปกติแบบที่เคยเป็น ด้วยอาการดังกล่าวนี้ก็เลยส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมบางอย่างในชีวิตของผม

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเขียนบล็อกของผมที่ทำให้การเนื้อหาบางส่วนในบล็อกที่ผมเขียนลงในปีนี้ก็เป็นไปตามที่ผมบอกไปข้างต้น นั่นก็คือมีความสั้นลงและอาจดูไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะในการเขียนแต่ละเรื่องผมก็ต้องใช้เวลาในการรวบรวมความคิดและเนื้อหาที่อยากจะสื่อออกไปผ่านตัวอักษรและรูป

และจากอาการ Long Covid ของผมนั่นเอง มันก็ทำให้ผมไม่ค่อยอยากที่จะเขียนเรื่องอะไรแบบที่มันยาวที่ทำให้ผมต้องคิดเยอะ และส่งผลให้ผมมีความรู้สึกที่อยากจะพักบ้าง (เพราะความเหนื่อยล้าที่เกิดจากการคิดเยอะ) เพราะถ้าหากผมเกิดเขียนบล็อกในขณะที่สุขภาพทางจิตของผมยังไม่พร้อม สิ่งที่ผมเขียนออกมานั้นก็อาจจะอ่านไม่รู้เรื่องเลย !0__0!

และด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงอยากจะบอกว่าในปีหน้า ปี 2023 ผมอาจจะเขียนเรื่องต่างๆลงในบล็อกของผมนี้น้อยลงกว่าเดิม (ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นจากทริปต่างๆก่อนโควิด, เรื่องเกี่ยวกับเตาแก๊ส, เรื่องประสบการณ์จากการทำงาน หรือแม้แต่เรื่องอื่นๆ รวมไปถึงเขียนรีวิวพรีเคียว) แต่ไม่ได้หมายความว่าตั้งแต่นี้ไปผมจะเขียนน้อยลงเสมอไปนะ เพราะขึ้นอยู่กับสภาวะของสุขภาพตัวผมและรวมไปถึงปัจจัยอื่นๆด้วย

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือภาระหน้าที่การงานของผมและธุระต่างๆที่ผมต้องจัดการสำหรับตัวเอง, คนในครอบครัว รวมไปถึงญาติสนิทที่ผมจำเป็นต้องช่วยเหลือ อีกทั้งผมก็มีงานอดิเรกอื่นๆ (นอกเหนือจากการเขียนบล็อก) ที่อยากจะลองทำบ้างเพื่อจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากผมหายจาก Long Covid จนกลับมาเป็นปกติ (หรือใกล้เคียงปกติ) ผมก็อาจจะกลับมาเขียนบล็อกแบบที่ผมเคยเขียนที่มีความน่าสนใจ อ่านสนุก และไม่น่าเบื่อ เพราะผมไม่รู้ว่าอาการแบบนี้จะใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงกลับมาเป็นปกติ อันนี้ผมตอบไม่ได้ แต่ผมก็ถือซะว่าเป็นการแจ้งให้ทราบละกัน

นอกเหนือจากนี้ ผมอยากจะบอกว่าสุขภาพโดยรวมของผมยังถือว่าปกติอยู่ เพราะผมสามารถใช้ชีวิตทำอะไรได้เหมือนปกติแบบคนทั่วไป จะทำงาน, จะจัดการเอกสารต่างๆ, จะขับรถ, จะไปเป็นธุระให้คนอื่น ก็สามารถทำได้ปกติ เพียงแค่ว่าผมมีอาการจาก Long Covid เท่านั้นเองนะ

และเรื่องสำคัญที่ผมอยากจะบอกก็มีเพียงเท่านี้ : )

และก่อนที่จะลาส่งท้ายในปีนี้ ผมก็อยากจะบอกอีกเรื่องนึงก็คือเรื่องของการไปเที่ยวญี่ปุ่นของผมในทริปถัดไป โดยถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและตัวผมพร้อม ปี 2023 ก็จะเป็นปีที่ผมจะได้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งนึง (จะถือว่าเป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกของผมในรอบ 4 ปี) และช่วงที่ผมจะไปก็น่าจะเป็นช่วงปลายปีเลย ยังไงถึงตอนนั้นเมื่อผมกลับมาผมก็น่าจะมีเรื่องราวต่างๆจากญี่ปุ่นที่อยากจะเขียนลงเล่าในนี้เหมือนที่ผมเคยทำมา

ที่สำคัญ เรื่องบางเรื่องที่เกี่ยวกับที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ผมเขียนในช่วงตอนที่โควิดระบาดหนักนั้น มียอดจำนวนผู้อ่านเยอะขึ้นมากในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี้ อาจจะเป็นผลจากการที่ทางการญี่ปุ่นได้เปิดประเทศให้เที่ยวกันได้แล้ว ซึ่งผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าหากว่าเรื่องที่ผมเขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นนั้นสามารถใช้เป็นประโยชน์ในการเที่ยวญี่ปุ่นได้ : )

ท้ายสุดนี้ ปี 2022 กำลังใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด และปี 2023 ก็ใกล้จะเข้ามาเต็มทีแล้ว ซึ่งเราต่างก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านั้นจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยและบรรเทาให้เราไม่ตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปกับสถานการณ์ต่างๆ (ที่อาจกำลังจะเกิดขึ้น) ก็คือ การมีสติ การมีปัญญา และการไม่ประมาทในชีวิตที่จะช่วยทำให้เราใช้ชีวิตให้อย่างอยู่รอดได้ภายใต้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม

และหวังว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีเรื่องดีๆบ้างที่จะได้เป็นกำลังใจให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไป

!Happy New Year 2023!

พบกันใหม่อีกทีในปี 2023 ครับ : )

________________________________________