ที่เขียนขึ้นมานี้ก็สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เป็นข่าวดังจากญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กนักเรียนญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ได้กระทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งในร้านซูชิสายพานชื่อดังร้านหนึ่งในญี่ปุ่น อีกทั้งพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นดูน่ารังเกียจเป็นอย่างมาก ซึ่งท้ายสุดทางร้านก็ได้แจ้งความเอาเรื่องและสามารถตามเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุคนนี้มาลงโทษได้ในที่สุด
สำหรับรายละเอียดของข่าวนี้ก็สามารถไปค้นหาอ่านเอากันเองได้นะ ซึ่งผมจะไม่ขอพูดถึงตรงนี้มาก
เพราะสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงตรงนี้ก็เกี่ยวกับร้านอาหารซูชิสายพานในญี่ปุ่น
**บอกก่อนว่ารูปซูชิที่เห็นอยู่ในนี้ ผมไม่ได้ถ่ายมาจากร้านซูชิสายพาน อันนี้เป็นเซ็ตซูชิที่ผมทานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเกียวโต คือผมแค่เอามาลงประกอบเท่านั้น โปรดเข้าใจด้วยนะ** : )

ผมเชื่อว่าคนที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นประจำก็อาจเคยมีโอกาสได้ไปนั่งทานซูชิในร้านอาหารซูชิที่เป็นแบบสายพาน ซึ่งการบริการของทางร้านก็จะเสิร์ฟซูชิหลากหลายแบบให้ลูกค้าได้ทาน โดยมีลักษณะที่พิเศษเฉพาะก็คือซูชิทุกจานจะถูกเสิร์ฟผ่านสายพานที่ตั้งอยู่ใจกลางร้าน ซึ่งสายพานนี้ก็จะนำซูชิหลากหลายที่อยู่บนจานต่างๆเสิร์ฟผ่านลูกค้าทุกๆโต๊ะและลูกค้าแต่ละคนก็สามารถเลือกหยิบว่าจะทานซูชิจานไหนก็ได้ตามใจชอบ (แต่ก็ควรทานให้พอเหมาะนะ)
ส่วนการคิดราคาซูชิแต่ละจานก็จะคิดจากสีของจานที่ลูกค้าได้หยิบไป รวมไปถึงก็มีซูชิบางเมนูที่จะต้องสั่งต่างหากที่สามารถสั่งได้จาก Touch Panel จากโต๊ะ (ในกรณีที่ไม่ได้มีเสิร์ฟอยู่แล้วผ่านสายพาน) ส่วนในเรื่องของน้ำจิ้มและเครื่องเคียงก็มีให้บริการที่โต๊ะอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องให้พนักงานมาเสิร์ฟให้อีกที

สำหรับผมเอง เรื่องเกี่ยวกับการไปทานซูชิสายพานนั้น ผมก็เคยเห็นผ่านตามาบ้าง ไม่ว่าจะอ่านจากหนังสือหรือนิตยสารท่องเที่ยว, ดูจากคลิปวิดีโอต่างๆ รวมไปถึงดูจากภาพยนตร์และซีรี่ส์ญี่ปุ่นด้วย ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมสนใจที่อยากจะลองทานซูชิสายพานดูสักครั้งหนึ่งเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น (อยากจะบอกว่าการได้เห็นซูชิบนจานวิ่งไปมาบนสายพานรอบๆร้าน ก็ทำให้บรรยากาศของร้านดูมีชีวิตชีวาไม่เงียบเหงานะ)
และผมก็ต้องบอกตรงนี้ว่า…..
จนถึงตอนนี้ นับตั้งแต่ผมได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาหลายรอบ (ก่อนโควิดระบาด) ผมจำได้ว่าผมน่าจะยังไม่เคยได้มีโอกาสไปนั่งทานซูชิที่ร้านซูชิสายพานเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนเหตุผลว่าทำไมนั้น คำตอบก็คือ…….
ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น ช่วงเวลาที่ไม่เอื้ออำนวย, ร้านซูชิสายพานที่อยากจะไปนั้นอยู่ไกลมาก, ที่ร้านมีลูกค้าเยอะมาก, มีร้านอาหารอื่นๆที่ผมอยากไปมากกว่า อะไรประมาณแบบนี้
ด้วยเหตุนี้ ก็ทำให้ผมคิดได้ว่าถ้าผมไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งต่อไป และถ้าผมยังคิดแบบนี้อยู่จากเหตุผลต่างๆ (ที่ดูเหมือนจะเป็นข้ออ้าง) ที่ทำให้ผมไม่สามารถไปทานซูชิที่ร้านซูชิสายพานนั้น มันก็จะทำให้ผมไม่ได้ไปทานจริงๆ !0__0!

ดังนั้นในทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปที่ผมจะไป ผมจะพยายามแบ่งช่วงเวลาของวันใดวันหนึ่ง (ในโปรแกรมการเที่ยวของผม) เพื่อที่จะได้มานั่งทานซูชิที่ร้านซูชิสายพานสักครั้งหนึ่งแบบจริงจังเลย (ซึ่งผมคิดว่าคงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงที่จะนั่งทานซูชิในร้านซูชิสายพาน) และผมก็ไม่ได้ถึงกับซิเรียสว่าจะต้องเป็นร้านไหน ขอให้เป็นร้านที่มีรสชาติใช้ได้, มีความสะอาด และมีการบริการที่น่าประทับใจ เท่านี้ผมก็ดีใจแล้ว : )
เอาเป็นว่าทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปของผม ผมจะพยายามที่จะหาเวลาไปทานซูชิที่ร้านซูชิสายพานสักครั้งหนึ่งให้ได้ และผมก็หวังว่าผมคงจะไม่ไปเจอพฤติกรรมแบบเด็กนักเรียนญี่ปุ่นตามที่เป็นในข่าวนะ

_______________________________________
You must be logged in to post a comment.