กำลังใจ, ความเชื่อมั่น, ความรักและความเข้าใจที่ทำให้ Sora กลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้งหนึ่ง จากตอนที่ 23 ของ Hirogaru Sky! Precure…..

ที่จริงผมไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องของตอนที่ 23 จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผมคาดไว้ซะอีกนะ แต่ก็พอจะเข้าใจว่าทางผู้สร้างคงไม่อยากให้อารมณ์ของเนื้อเรื่องในซีรี่ส์โดยรวมดูมืดหม่นจนเกินไป ซึ่งผมว่าก็ดีแล้วละ เพราะผมคิดว่าเราน่าจะได้เห็นตัวละครอย่างกัปตัน Shalala มีบทบาทมากขึ้นในซีรี่ส์หลังจากนี้ (ไม่ใช่แค่ปรากฏตัวในตอนสำคัญๆเท่านั้นนะ)

สำหรับในตอนที่ 23 ของ Hirogaru Sky! Precure ที่ผมอยากจะรีวิวนั้น ผมอยากเน้นไปที่ประเด็นๆนี้…..

Sora สามารถลุกขึ้นกลับมาต่อสู้กับ Ranborg พร้อมกับเพื่อนๆอีกครั้งหนึ่งได้อย่างไร?????

**Screenshots ทั้งหลายที่เอามาเป็นลิขสิทธิ์ของ Toei Animation**

ต้องย้อนกลับไปในตอนที่ 22 สักหน่อย เพราะมันมีความเกี่ยวเนื่องกัน จะเห็นได้ว่า Sora ได้ต่อสู้กับเจ้า Ranborg ตัวหนึ่ง (ที่ Battamonda เป็นผู้สร้างขึ้น) สู้ไปสู้มาจนพวก Mashiro ตามมาช่วยถึงได้รู้ทีหลังว่า ภายใน Ranborg ตัวนี้มีร่างของกัปตัน Shalala (ที่หมดสติ) ถูกรวมเข้าไปกับพลังมืดของ Underg ที่ทำให้เกิด Ranborg ตัวนี้ขึ้นมา

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Sora ไม่กล้าที่จะสู้และยอมแพ้ในที่สุด อีกทั้งบอกว่าไม่อยากจะเป็นฮีโร่อีกแล้ว ส่งผลให้ Mirage Pen ของเธอ (ที่เป็นอุปกรณ์แปลงร่าง) ได้สลายหายตัวไป รวมไปถึง Sky Tone ที่ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

และสภาพของ Sora ที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอจึงตัดสินใจจากลาพวก Mashiro โดยที่ไม่บอกลาสักคำและกลับไปหาครอบครัวของเธอที่อยู่ในแถบชนบทของ Sky Land เมื่อมาถึงเธอก็ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ครอบครัวของเธอฟัง แม้ว่าน้องชายของเธอจะเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณพ่อและคุณแม่ของเธอก็เข้าใจในสิ่งที่เธอได้ทำลงไป

มาถึงจุดนี้ Sora ก็คงอยากที่จะใช้เวลาคิดทบทวนตัวเองว่าเธอยังอยากที่จะเป็นฮีโร่แบบที่เธอต้องการหรือไม่

แต่หลังจากนั้นไม่นาน Sora ก็ได้รับจดหมายจาก Mashiro ที่คุณยาย Yoyo นำมาส่งให้เธอถึงหน้าบ้านเลย และเมื่อเธอได้เปิดจดหมายอ่าน เธอก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอได้กระทำลงไป อีกทั้งเธอก็โทษตัวเองว่าเธอเป็นคนที่ทิ้งเพื่อน ทิ้งกัปตัน Shalala (ผู้เป็นฮีโร่ที่เธอยกย่องและรัก) ไม่มีความกล้าที่จะสู้ รวมไปถึงโทษตัวเธอเองว่าสิ่งที่เธอได้กระทำลงไปนั้นไม่ใช่คุณสมบัติของการเป็นฮีโร่เลย

อย่างไรก็ตาม ด้วยคำพูดจากใจของ Mashrio ที่สื่อผ่านตัวอักษรในจดหมายที่บอกว่า Sora ก็ยังคงเป็นฮีโร่ของเธอ ก็ทำให้ Sora กลับใจลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งเพื่อให้สมกับที่เป็นฮีโร่ดังที่ Mashiro ได้บอก

และเมื่อสภาพจิตใจของเธอกลับมาพร้อมแล้ว Sora ก็ได้กลับมาเป็นฮีโร่อีกครั้งหนึ่งตามที่ตัวเองอยากจะเป็นจริงๆ และสามารถช่วยชีวิตกัปตัน Shalala ได้อย่างปลอดภัยในที่สุด : )

มาถึงตรงนี้ ผมขอสรุปจากที่ผมเข้าใจจากประเด็นที่ผมกล่าวมาข้างต้น ก็คือ….

จุดเปลี่ยนที่ทำให้ Sora สามารถกลับมาเป็น Sora คนเดิมที่อยากจะเป็นฮีโร่และอยากกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้งหนึ่งนั้น ก็น่าจะมาจากการให้กำลังใจ, การให้ความเชื่อมั่น, การให้ความรัก และความเข้าใจของเพื่อนๆร่วมทีมที่มีต่อ Sora มาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mashiro ที่ถือว่าเป็นเพื่อนคนแรกของเธอ

เพราะก่อนหน้านี้ Sora เคยบอกกับ Mashiro ว่าไม่อยากให้เธอเป็นพรีเคียว ด้วยความเป็นห่วงและกลัวว่า Mashiro จะเจ็บตัวไปเปล่าๆ

แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพอสมควร Mashiro ก็เข้าใจถึงความรู้สึกของ Sora ที่มีต่อเธอ เธอจึงอยากเป็นฝ่ายที่จะปกป้อง Sora บ้างเพื่อให้ Sora รู้ว่าไม่ใช่เพียงเธอคนเดียวที่เป็นห่วงคนอื่น ตัว Mashiro รวมไปถึงคนอื่นๆในทีม Hirogaru Sky ทั้ง Tsubasa และ Ageha (พร้อมกับเจ้าหญิง Eru และคุณยาย Yoyo) ก็ต่างเป็นห่วง Sora เหมือนกันและอยากที่จะพูดคุยกับเธอเพื่อปรับความเข้าใจ

ซึ่งท้ายสุด ดังที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น Sora ก็ได้กลับมาเป็นคนเดิมที่มุ่งมั่นที่จะเป็นฮีโร่และพร้อมที่จะแบกรับความสุขความทุกข์ร่วมไปกับเพื่อนๆร่วมทีมที่ทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

และรวมไปถึงกัปตัน Shalala ที่ดูเหมือนจะภาคภูมิใจในตัวของ Sora ที่ได้ช่วยชีวิตและสื่อความหมายของการเป็นฮีโร่ในฉบับของเธอเอง นั่นก็คือความเชื่อมั่นเชื่อใจและการล้มแล้วลุกแบบไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ

และทั้งหมดนี้ก็คือการรีวิวตอนที่ 23 ของ Hirogaru Sky! Precure ตามที่ผมอยากจะรีวิวจริงๆ

ส่วนรายละเอียดอื่นๆเล็กน้อย ก็คงจะเป็นฉากในตอนท้ายที่ Mashiro สั่ง Battamonda ว่าห้ามขยับ ซึ่งเป็นการ Replay ฉากนี้อีกครั้งเหมือนกับที่ Sora เคยทำกับ Battamonda ในตอนที่ 15 (ที่ตีความหมายได้หลายแบบ) เพียงแต่คราวนี้เมื่อเปลี่ยนมาเป็น Mashiro ก็ทำให้บรรยากาศของฉากดูไม่ตึงเครียดแล้ว แต่แฝงไปด้วยความเอาจริงเอาจังอย่างหนักแน่นของ Mashiro (รวมถึง Tsubasa และ Ageha) ที่จะปกป้อง Sora และกัปตัน Shalala เลยทำให้ฉากนี้เหมือนกับเป็นการทำให้ Sora รู้สึกโล่งใจที่เพื่อนๆพรีเคียวของเธอมีความรู้สึกที่เหมือนกันไม่ต่างจากเธอในเวลาที่จำเป็นต้องลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องคนที่เรารัก

เอาเป็นว่าภารกิจการตามหาและช่วยชีวิตกัปตัน Shalala ก็ได้จบลงด้วยดี ซึ่งก็ต้องใช้เวลาจำนวนถึง 8 ตอน (หรือประมาณเกือบ 2 เดือน) กว่าจะดำเนินเรื่องมาถึงจุดได้นี้นะ

__________________________________