ครั้งแรกของผมกับการส่งโปสการ์ดให้กับตัวเองจากญี่ปุ่นที่ Tokyo Skytree……………

คือจะบอกว่าเรื่องแบบนี้ผมสามารถทำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ทำ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจริงๆ????

นั่นก็คือ การส่งโปสการ์ดไปให้กับตัวเองจากญี่ปุ่น

สำหรับบางคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ก็น่าจะเคยซื้อโปสการ์ดจากที่ญี่ปุ่นแล้วลงชื่อที่อยู่ตัวเองและติดแสตมป์ส่งไปให้ตัวเอง (หรือไม่ก็ส่งให้คนรู้จัก) เหมือนกับให้เป็นหลักฐานว่าเราได้มาถึงญี่ปุ่นแล้วจริงๆ

โดยในสมัยก่อน ก่อนที่โลกออนไลน์จะมีบทบาทในการติดต่อสื่อสารอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เรื่องของการส่งโปสการ์ดจากต่างประเทศแทบจะเป็นเรื่องธรรมดา (ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆก็ตาม)

ส่วนมากจากประสบการณ์ของผมที่เคยเจอ ก็คือได้รับโปสการ์ดจากญาติหรือคนรู้จักที่ไปเที่ยวหรือไม่ก็อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ส่วนเนื้อหาในโปสการ์ดที่ได้อ่านก็จะเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันและความเป็นอยู่ในขณะนั้น รวมไปถึงบอกด้วยว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง เช่นแบบว่า…..

ตอนนี้อยู่ที่โตเกียว อากาศเย็นมาก ได้ทานอาหารจากร้านสะดวกซื้อ

หรือได้ไปเที่ยว Tokyo Tower คนเยอะมาก อะไรแบบนี้

แต่ในปัจจุบัน เรื่องของการส่งโปสการ์ดจากต่างประเทศก็ไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนในสมัยก่อน เพราะสามารถติดต่อกันบนออนไลน์ได้ผ่าน Smartphone (และอาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าต้องเสียเวลามานั่งเขียนแล้วก็ติดแสตมป์ และยังต้องเดินหาตู้ไปรษณีย์เพื่อส่งอีก) แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่ยังอยากเขียนและส่งโปสการ์ดจากต่างประเทศอยู่ ไม่ว่าจะส่งให้กับตัวเองหรือส่งให้กับคนอื่นก็ตาม

ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้ด้วย แต่ก็อย่างที่ได้บอกไปตั้งแต่ต้นว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นตั้งหลายครั้งหลายรอบ ทำไมผมถึงไม่เคยส่งโปสการ์ดให้กับตัวเองจากญี่ปุ่นเลย????? คือไม่รู้จริงๆว่าทำไมนะ !0__0!

อย่างไรก็ตาม จากทริปล่าสุดของผมที่ไปญี่ปุ่นมา ผมก็ได้โอกาสที่จะอยากจะทำสิ่งนี้สักที ด้วยความที่ว่าผมได้ไปเที่ยว Tokyo Skytree อีกครั้งในรอบ 9 ปี (ที่ผมลงไปก่อนหน้านี้ไม่นาน) บังเอิญว่าผมไปเจอจุดที่มีตู้ไปรษณีย์ให้บริการที่สามารถให้นักท่องเที่ยวเขียนโปสการ์ดแล้วหย่อนใส่ลงไปในตู้เพื่อที่จะส่งให้กับใครก็ได้ทั่วโลก ซึ่งตู้ไปรษณีย์ตู้นี้ตั้งอยู่ใกล้กับร้าน Tokyo Skytree Shop บนชั้น 5 ซึ่งลักษณะของตัวตู้ก็เหมือนกับตัวหอคอย Tokyo Skytree เลย (ตามที่เห็นจากรูปบน)

ผมเลยไม่รอช้า รีบเดินไปที่ร้านแล้วเลือกซื้อโปสการ์ดแบบต่างๆ ทั้งซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและซื้อเพื่อที่จะเขียนส่งให้กับตัวเอง และต้องอย่าลืมซื้อแสตมป์ 100 เยนมา 1 ดวงด้วยนะ (ที่ร้านมีแสตมป์จำหน่ายด้วย) เพื่อที่จะมาติดกับโปสการ์ดก่อนที่จะหย่อนใส่ลงตู้ส่ง  (จะส่งไปประเทศไหนก็ใช้แสตมป์ 100 เยน เหมือนกันหมด) โดยรูปโปสการ์ดที่ผมใช้ส่งให้กับตัวเองก็คือรูปตัวหอคอย Tokyo Skytree ตามที่เห็นในรูปล่าง

จากนั้น ก่อนที่จะส่ง ผมก็ต้องใส่ชื่อที่อยู่ตัวเองที่จะส่งไปให้ รวมไปถึงข้อความที่อยากจะเขียนลงไปบนโปสการ์ด สำหรับผมถ้าจะเขียนอะไร ก็ให้เขียนจากความรู้สึกนึกคิดในขณะนั้นไปเลย หรือจะเขียนจากความรู้สึกตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม เอาแบบสดๆเลย โดยสิ่งที่ผมเขียนลงไปบนโปสการ์ดก็เป็นไปตามที่เห็นในรูปแรกบนสุด ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ (จะมีข้อความบางส่วนที่ผมจำเป็นต้องปิดบังเอาไว้ด้วยเหตุผลส่วนตัว รวมไปถึงชื่อที่อยู่ในการส่งด้วย) ส่วนแสตมป์ 100 เยน ผมก็ติดไว้บนด้านขวาบนของโปสการ์ด

อีกทั้งผมก็ไม่ลืมที่จะใช้ตราประทับ (ที่ทาง Tokyo Skytree จัดไว้ให้) ที่เป็นรูป Tokyo Skytree ประทับลงบนโปสการ์ดตรงที่เป็นพื้นที่ว่าง เพื่อเป็นหลักฐานว่าผมได้มา Tokyo Skytree แล้วจริงๆ

เมื่อเสร็จสิ้นจากการเขียนโปสการ์ดแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมจะนำโปสการ์ดใบนี้ไปหย่อนใส่ลงไปในตู้ไปรษณีย์ โดยผมได้ถ่ายรูปจังหวะที่ผมจะเตรียมหย่อนโปสการ์ดใส่ลงไปในตู้ด้วย เท่านี้ก็เสร็จสิ้น ที่เหลือก็แค่รอรับโปสการ์ดเมื่อผมกลับไปถึงบ้านแล้ว

ส่วนเรื่องระยะเวลากว่าที่จะได้รับโปสการ์ดนั้น อันนี้ผมก็คิดว่าก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าได้รับกันเมื่อไหร่ ในกรณีของผม ถ้าจำไม่ผิดต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกว่าโปสการ์ดจะมาถึงมือของผม โดยทีแรกผมก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะได้รับโปสการ์ดหรือไม่ เพราะต้องเตรียมใจไว้ก่อนว่าโปสการ์ดอาจจะหายไปได้นะ แต่สุดท้ายโปสการ์ดก็ได้ส่งมาถึงมือผมสักที (จำได้ว่าตอนที่ผมได้รับ ผมก็เกือบลืมไปเลยว่าผมได้เขียนโปสการ์ดส่งให้กับตัวเองตอนอยู่ญี่ปุ่น) ตามที่เห็นในรูปล่าง (ซึ่งก็เหมือนกับตอนที่ผมจะหย่อนลงใส่ตู้ ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือตราประทับของสำนักไปรษณีย์ต้นทางที่ส่งมาจากญี่ปุ่น

เอาเป็นว่า ผมทำสำเร็จแล้วกับการส่งโปสการ์ดให้กับตัวเองจากญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิต : )

ส่วนถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากทำตาม ก็สามารถทำได้เลย เพราะไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการส่งโปสการ์ดให้กับตัวเองจากญี่ปุ่น (ถึงแม้ว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคแห่งการติดต่อสื่อสารผ่านออนไลน์ก็ตามแต่นะ) อีกทั้งตู้ไปรษณีย์ในญี่ปุ่นก็หาไม่ค่อยยากในตัวเมือง

อย่างน้อยตัวโปสการ์ดที่เราส่งให้กับตัวเองก็เหมือนเป็นของที่ระลึกจากญี่ปุ่นที่มีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใครจริงๆ

______________________________