เชื่อว่าหลายๆคนที่ทำธุรกิจหรือกิจการส่วนตัวต้องอย่างน้อยเคยเจอปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้ามีปัญหา, การต่อว่าจากลูกค้า, การติดต่อกับบริษัทที่สั่งสินค้ามาขาย หรือแม้แต่เรื่องบัญชีการเงิน
แต่ก็มีอยู่ปัญหาหนึ่งที่เถ้าแก่หรือเจ้าของกิจการส่วนมากจะต้องเคยเจอและปวดหัวเป็นประจำ โดยเฉพาะกิจการที่ต้องใช้บุคลากรเยอะ นั่นก็คือลูกจ้างนั่นเอง (บางทีก็อาจจะเรียกว่าคนงานหรือลูกน้องก็ได้)
จากประสบการณ์ของผมหลายปีที่คลุกคลีอยู่กับธุรกิจของญาติๆ นี่คือ 6 พฤติกรรมแย่ๆทั้งหลายของลูกจ้างที่สามารถทำให้เถ้าแก่และเจ้าของกิจการทั้งหลายต้องปวดหัวและไม่พอใจเป็นอย่างมาก
1. หยุดงานหรือไม่มาทำงานโดยไม่บอกล่วงหน้า
นี่เป็นพฤติกรรมที่พบบ่อยมากที่สุดจากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอมากับตัวและจากที่ได้ฟังเจ้าของกิจการรายอื่นที่อยู่ในแวดวงเดียวกันเล่าให้ฟัง พฤติกรรมนี้ส่วนมากจะมาจากการที่ตัวลูกจ้างดื่มสุราและเมาหนักจนไม่สามารถมาทำงานได้ อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ ลูกจ้างรู้อยู่ว่าเถ้าแก่จะมีงานที่หนักให้ทำเยอะในวันนั้น ก็เลยตัดสินใจไม่มาซะเลย เพราะความขี้เกียจ
2. หลบงาน (หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า อู้งาน)
พฤติกรรมแบบนี้มีให้เห็นอยู่หลายแบบเช่น คุยโทรศัพท์โดยอ้างว่าคุยเรื่องธุระนิดนึงทั้งที่คุยกันนานมาก หรือแฟนขี่รถมาหาที่ทำงานทั้งที่สามารถเจอกันหลังเลิกงานได้ เป็นต้น แต่จากประสบการณ์ของผมที่เห็นได้ชัดคือการเข้าห้องน้ำนานๆ โดยไม่ยอมรีบออกมา (ไม่รู้เหมือนกันว่าห้องน้ำอยู่แล้วมีความสุขเหรอ??) ส่วนมากจะเป็นตอนที่หลังจากเถ้าแก่ขายของให้ลูกค้าเสร็จแล้ว ก็จะเรียกให้ลูกน้องไปส่งของให้ แต่พบว่าตัวลูกน้องอยู่ในห้องน้ำ เลยต้องจำเป็นให้ลูกค้าเอาของกลับไปเอง
3. นั่งเฉยๆ รอให้เถ้าแก่สั่งงาน
อันนี้ผมก็เจอมาเยอะ เวลาไปซื้อของตามร้านขายของปลีกทั่วไปในตลาด นั่งเฉยๆในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่านั่งพัก 5 – 10 นาที แต่เป็นการนั่งแบบนานๆสบายๆ (ทำตัวเหมือนกับนั่งเล่นอยู่ที่บ้าน) เถ้าแก่ไม่สั่งอะไรก็ไม่ทำ ซึ่งจริงๆแล้วมีงานเยอะแยะที่สามารถทำได้ ถ้าไม่มีลูกค้ามาซื้อของหน้าร้าน เช่น ทำความสะอาดสินค้าที่วางอยู่บนชั้น หรือเช็คสินค้าแต่ละชิ้นในร้านว่ามีเพียงพอหรือเปล่า เป็นต้น
4. แสดงกิริยาไม่พอใจเมื่อโดนต่อว่าหรือโดนใช้ให้ไปทำอะไรก็ตาม
เหตุการณ์แบบนี้มักจะเจอกับลูกจ้างที่ทำงานมาเป็นเวลานานแล้ว เมื่อถูกต่อว่าหรือตักเตือนเรื่องอะไรก็ตาม ก็จะแสดงกิริยาต่างๆที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมากกับเถ้าแก่ เช่น เถียง, ขึ้นเสียงกับเถ้าแก่ ไปจนถึงระบายอารมณ์ออกมาตอนเวลาทำงาน เช่น ตอนจัดเรียงสินค้าก็จะวางกระแทกของแบบแรงๆ หรือแกล้งทำให้ของหล่นกระจายบนพื้นซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ พฤติกรรมแบบนี้เถ้าแก่บางคนคงไม่เอาไว้แน่
5. ยืมเงินเถ้าแก่แล้วไม่ใช้คืน
จริงๆก็เป็นเรื่องปกติสำหรับลูกจ้างที่ทำงานมานาน ก็อาจจะต้องการความช่วยเหลือจากเถ้าแก่ในเรื่องของการยืมเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็น โดยลูกจ้างบางส่วนพอยืมเงินไปแล้วก็จะใช้คืนด้วยวิธีการหักจากค่าจ้างแทน ซึ่งเถ้าแก่ก็โอเค แต่ก็จะมีบางส่วนที่ยังไม่ยอมคืนเงินโดยอ้างว่า “รอเดี๋ยวก่อน รอมีเงินแล้วค่อยเอามาคืน” พฤติกรรมแบบนี้แสดงให้เห็นว่าลูกจ้างคนนั้นไม่รู้จักวิธีบริหารการเงินและมีนิสัยการใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่าย และถ้าหากจะมายืมอีกทั้งที่ของเก่ายังไม่ใช้คืน เถ้าแก่คงจะไม่ยอมแน่ๆ
6. ลาออกกลางคัน
คงไม่มีเถ้าแก่หรือเจ้าของกิจการคนไหนที่อยากจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะลูกจ้างที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ส่วนหนึ่งก็น่าจะเกิดจากตัวลูกจ้างไม่สู้งาน, ไม่ยอมเรียนรู้งานจากเถ้าแก่, ไม่มีความรับผิดชอบ, ขี้เกียจและคิดว่าแค่มาทำและรับเงินไปวันๆ จบ ซึ่งลูกจ้างเหล่านี้ เมื่อลาออกไปและคิดที่จะกลับมาทำงานที่เดิมอีก เถ้าแก่ทั้งหลายก็คงจะไม่รับลูกจ้างนี้กลับเข้าทำงานอีก เพราะรู้ว่านิสัยคนเหล่านี้เป็นอย่างไร
้ี
สำหรับพฤติกรรมแย่ๆเหล่านี้ของลูกจ้างที่ผมได้กล่าวมานั้น วิธีการจัดการก็ต้องขึ้นอยู่กับเถ้าแก่และเจ้าของกิจการแต่ละคน ซึ่งก็ไม่มีวิธีไหนที่ตายตัว อย่างน้อยก็ต้องพูดคุยกับลูกจ้างอย่างมีเหตุผลและไม่ใช้อารมณ์
สำหรับทางฝั่งลูกจ้างนั้น ถ้าหากยังทำพฤติกรรมแย่ๆเหล่านี้อยู่ (รวมไปถึงพฤติกรรมแย่อื่นๆที่ผมไม่ได้เอ่ย) และไม่ปรับปรุงตัว ตัวเองก็อาจจะโดนเชิญให้ออกจากงานได้ ถึงตอนนั้นแล้วก็จะบ่นไม่ได้ว่าไม่มีงานทำ ไม่มีคนจ้าง ก็เพราะว่ามาจากพฤติกรรมแย่ๆที่ตัวเองได้ทำไว้ไงล่ะ
____________________________________________________________________
3 thoughts on “6 พฤติกรรมแย่ๆของลูกจ้างที่ทำให้เหล่าเถ้าแก่และเจ้าของกิจการไม่พอใจได้”