ผมก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วยตัวเอง เวลาที่ลูกจ้างที่อยู่ได้ไม่นานบอกกับญาติผมว่าทำไม่ไหวและทำท่าทางไม่ค่อยพอใจเวลาที่ถูกเรียกใช้งาน และวันถัดไปก็หนีออกไปเลยโดยที่ไม่มีการบอกอะไรล่วงหน้า ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เถ้าแก่, นายจ้างหรือเจ้าของกิจการต้องไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ลูกจ้างทำแบบนี้ !=__=!
แต่กรณีนี้ที่ผมจะเล่าให้ฟัง เกิดขึ้นกับลูกค้าของผมเองคนนึง………..
ลูกค้าผมคนนี้เป็นเจ้าของเปิดร้านอาหารโดยขายอาหารหลายหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามสั่ง, อาหารฝรั่ง หรือแม้แต่อาหารญี่ปุ่น ที่ผมชอบไปทาน
โดยเขามีหน้าที่ทำอาหารทั้งหมด โดยมีน้องๆอีก 2 คนในครอบครัวของเขาเป็นผู้ช่วย เท่ากับว่ามีทั้งหมด 3 คนที่ช่วยกันทำงานในร้านอาหารนี้โดยที่ไม่ต้องมีลูกจ้างเลยแม้แต่คนเดียว
และอยู่มาวันนึง น้องคนนึงของลูกค้าผมคนนี้ ต้องกลับไปดูแลญาติที่ป่วยหนักที่ต่างจังหวัด ก็เท่ากับว่าเหลือคนทำงานเพียงแค่ 2 คน
และในเมื่อมีแค่ 2 คน งานที่จะต้องทำก็มีมากขึ้นอีก
ด้วยเหตุนี้เอง ลูกค้าของผมก็ได้ติดป้ายรับสมัครพนักงานหน้าร้าน เพื่อที่จะมาช่วยทำหน้าที่แทนน้องคนที่กลับไปต่างจังหวัด เพราะถ้าทำเองกัน 2 คน คงทำไม่ไหวแน่ (เนื่องจากร้านอาหารของเขาขายได้ดี มีลูกค้ามาทานกันเป็นประจำ ก็เลยต้องหาลูกจ้างมาช่วย เพราะถ้าเกิดขายไม่ดี ก็คงไม่เปิดรับสมัครหรอก)
สุดท้ายก็ได้ลูกจ้างที่มาสมัครคนนึง โดยจ้างเป็นรายวัน
ซึ่งในส่วนของหน้าที่ของลูกจ้างที่จะต้องทำในร้านก็มีตั้งแต่เสิร์ฟอาหาร, เสิร์ฟน้ำและน้ำแข็ง, เก็บจานชามแก้วน้ำ, เช็ดโต๊ะ, ล้างจานชาม รวมไปถึงการทำความสะอาดร้านหลังปิดเรียบร้อยแล้ว (เหมือนกับตัวผมเองก็ต้องทำทุกอย่างในร้านเหมือนกัน !O_o!) มองดูภาพรวมแล้วก็ไม่ใช่งานที่ไม่หนักและทำไม่ยาก
ส่วนลูกค้าผมที่เป็นเจ้าของก็มีหน้าที่ทำอาหารตามปกติ
เวลาที่ผมไปนั่งทานอาหารในร้านของลูกค้า ลูกจ้างคนนี้ก็ดูทำงานได้ดี สั่งให้ทำอะไรก็ทำได้หมด : )
ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน ผมก็ไปที่ร้านอาหารของลูกค้าผมอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับเจอป้ายติดที่ร้าน ซึ่งบอกว่า
“รับสมัครพนักงาน”
“เกิดอะไรขึ้นครับ????” ผมถามลูกค้าของผม
เขาก็เลยเล่าให้ฟัง………
“ลูกจ้างคนนี้หนีออกไปจากร้านเฉย โดยที่ไม่มีการบอกอะไรเลย”
มันเป็นเวลาตอนที่ไม่มีลูกค้ามานั่งทานอาหารในร้าน ลูกค้าของผม (ในฐานะนายจ้าง) ก็เลยสั่งให้ลูกจ้างคนนี้เฝ้าอยู่หน้าร้านคนเดียว ส่วนตัวเขาก็เข้าไปในห้องครัวพร้อมกับน้องของเขาอีกคนนึง เพื่อไปเช็ควัตถุดิบอาหารและเครื่องปรุงว่ามีอะไรเหลือบ้าง
แต่พอเลยเวลาไปประมาณ 10 – 20 นาที ลูกค้าของผมก็กลับออกมาที่หน้าร้าน แล้วพบว่าลูกจ้างคนนี้ไม่อยู่แล้ว!!
เขาก็ตกใจและงงเป็นอย่างมากว่า อยู่ดีๆลูกจ้างคนนี้หายตัวไปได้อย่างไร !o__0!
ยังโชคดีว่าของและทรัพย์สินทั้งหลายที่อยู่ในร้านไม่มีอะไรหายไป
เขาก็เลยรออีกสัก 1 ชั่วโมง เผื่อว่าลูกจ้างคนนี้จะกลับมา…….. (จะโทรตามหาก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้)
แต่ก็ไม่มีวี่แววที่จะกลับ…….
สอบถามจากคนทั้งหลายที่อยู่ในละแวกเดียวกันใกล้ๆร้านของเขา มีอยู่คนนึงบอกว่า “เห็นลูกจ้างคนนี้เดินออกไปจากร้าน เหมือนกับจะไปซื้ออะไรมาทาน และไม่เห็นเขาเดินกลับมาที่ร้านอีกเลย”
ด้วยเหตุนี้ลูกค้าของผมก็เลยรอเวลาให้ผ่านไปอีกสัก 2 -3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจ้างคนนี้จะไม่กลับมาทำงานอีกแล้วจริงๆ หรือเผื่อว่าลูกจ้างกลับตัวกลับใจอยากมาทำงานตามปกติ (และอย่างที่บอกไว้ เนื่องจากไม่มีเบอร์โทรศัพท์ก็ทำอะไรมากไม่ได้) และเมื่อเลยเวลาตามที่ได้รอไว้แล้ว………
ลูกจ้างคนนี้ก็ไม่กลับมาจริงๆ
จึงทำให้ลูกค้าของผมต้องติดป้ายประกาศ รับสมัครพนักงานใหม่อีกครั้ง
คราวนี้ลูกค้าของผมถึงกับต้องมานั่งคัดกรองคนที่มาสมัครใหม่ ด้วยการบอกรายละเอียดให้ลงลึกไปเลยว่าทำอะไรบ้าง,เริ่มงานและเลิกงานกี่โมง, หยุดได้กี่วัน, ข้อห้ามมีอะไรบ้าง ฯลฯ
แต่จากที่ลูกค้าของผมเล่าให้ฟัง คนที่มาสมัครงานส่วนมากก็ดูไม่ค่อยพอใจกับงานที่ตัวเอง (ที่กำลังจะสมัคร) จะต้องทำ ด้วยเหตุผลที่ว่า เลิกงานค่อนข้างดึก, ต้องเก็บทำความสะอาดร้านหลังปิดแล้ว, ค่าจ้างที่ไม่ค่อยสูงนัก, ต้องรับมือได้หากว่ามีลูกค้าหลายคนมาพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน และเหตุผลอื่นๆที่ไม่สามารถอธิบายได้
และจนถึงตอนนี้ (ณ เวลาที่เขียน) ลูกค้าของผมก็ยังไม่สามารถหาลูกจ้างที่ต้องการได้ !=__=!
กลับมาที่เรื่องของลูกจ้างคนเก่าที่หนีออกไป
ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะมีเหตุผลเดียวกับคนที่มาสมัครใหม่หรือเปล่า (อย่างที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า)
แต่การที่ทำแบบนี้แสดงให้เห็นถึงการไม่มีความรับผิดชอบในการทำงาน เหมือนกับว่า”ฉันอยากจะออก ก็ออกไปได้เลย ฉันไม่แคร์” โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของเจ้าของ (หรือนายจ้าง) ที่จะตามมา เพราะถ้าเกิดอยากจะออกจริงๆ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ก็ควรจะบอกกับเจ้าของร้านตรงๆซะว่าขอออก เพื่อที่เจ้าของจะได้เตรียมหาคนอื่นที่มาทำแทนได้
และถ้ามองจากตัวงานของลูกจ้างคนนี้ (ที่หนีออกไป) มันก็ไม่ใช่งานที่หนักและทำยาก (ไม่ใช่แบบว่า “ต้องแบกของหนักหรือออกไปตากแดดส่งของให้ลูกค้า” อย่างที่ผมต้องทำ =__=) เพราะว่างานเหล่านี้ในร้านอาหารเป็นงานพื้นฐานที่คนทั่วไปสามารถทำกันได้ ถ้าทำไม่เป็น เจ้าของก็สอนได้
ผมไม่รู้ว่าลูกจ้างคนเก่านี้ที่หนีออกจากงานไปอยู่ที่ไหนแล้ว
แต่รู้ได้อย่างนึงว่าการที่เขาจะขอกลับมาทำงานที่สบายๆแบบนี้ในที่ร่มก็คงจะยาก (ที่คนอื่นที่อยากจะหาทำ แต่หาไม่ได้) ในเมื่อตัวเองเป็นคนเลือกที่จะออกโดยที่ไม่มีการบอกให้เจ้าของร้านรับรู้อะไรเลย
___________________________________________________