คนที่ชอบไปเที่ยวแถวฟุกุโอกะบ่อย โดยเฉพาะถ้าใครผ่านหรือใช้บริการสถานี JR Hakata เป็นประจำ ก็น่าจะต้องรู้จักร้าน il FORNO del MIGNON ซึ่งเป็นร้านขายครัวซองต์ชื่อดังที่ตั้งอยู่ในบริเวณสถานี
โดยร้านนี้มีจุดเด่นก็คือ เขาจะขายครัวซองต์โดยคิดราคาจากการชั่งน้ำหนัก
จากทริปญี่ปุ่นที่ผมไปมาล่าสุด ผมก็ได้ไปฟุกุโอกะด้วย (เพราะอยากจะไปร้าน Precure Pretty Store) ผมเลยไม่พลาดที่จะลองซื้อครัวซองต์จากร้านดังร้านนี้มาทานดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร โดยผมไปแวะซื้อก่อนที่จะนั่งรถไฟชินคันเซ็นกลับไปโอซาก้า (จำได้ว่าต้องต่อคิวยาว แต่ก็ใช้เวลาไม่นานกว่าจะถึงคิวของผม)
ซึ่งครัวซองต์ที่ผมได้ซื้อมาจากร้านก็อยู่ในถุงใบนี้ในรูปล่างตามที่เห็นนะ มีชื่อร้านพิมพ์อยู่บนตัวถุงด้วย : )
**โปรดทราบว่ารูปถ่ายทั้งหมดนี้ ผมได้ถ่ายไว้ก่อนที่ COVID-19 จะระบาดในญี่ปุ่น**

สำหรับร้านขายครัวซองต์ร้านนี้ ทางร้านจะขายครัวซองต์ทั้งหมด 3 รส ได้แก่ รสต้นตำรับ (Plain), รสช็อกโกแลต (Chocolate) และรสมันหวาน (Sweet Potato) ลักษณะก็จะเป็นครัวซองต์ชิ้นเล็ก
ส่วนราคาต่อน้ำหนักของทั้ง 3 รสนี้ ก็จะแตกต่างกันไป (โดยยึดที่น้ำหนัก 100 กรัม) ถูกสุดจะเป็นรสต้นตำรับ ส่วนแพงสุดจะเป็นรสมันหวาน
ในระหว่างที่กำลังรอคิว ผมก็คิดอยู่ในใจว่าเดี๋ยวจะลองซื้อครัวซองต์ทั้ง 3 รสเลยดีกว่า อย่างละ 100 กรัม เดี๋ยวตอนทานก็จะได้รู้ว่าแต่ละรสมันเป็นอย่างไร
และเมื่อถึงคิวของผม ผมก็บอกพนักงานว่าจะซื้อชิ้นนี้ โดยการชี้นิ้วไปที่ตู้กระจกที่มีครัวซองต์หลากหลายชิ้น (ตามที่เห็นในรูป)

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับผม…………..
เมื่อตอนที่พนักงานของร้านคิดเงินสำหรับครัวซองต์ที่ผมได้ซื้อ โดยคิดในราคาไม่ถึง 100 กรัม และจำนวนครัวซองต์ที่ผมได้ซื้อ ก็คือ 1 ชิ้นเท่านั้น!!!
.
.
คิดว่ามันแปลกมั๊ย?? สำหรับการซื้อครัวซองต์เพียง 1 ชิ้น ซึ่งก็คือรสต้นตำรับ ทั้งๆที่ผมตั้งใจจะซื้อทั้ง 3 รส อย่างละ 100 กรัม (ถ้านับเป็นจำนวนชิ้นทั้งหมด ก็จะประมาณ 10 – 11 ชิ้น ตามน้ำหนัก)
ตอนนั้นผมก็คิดไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี แต่ในเมื่อพนักงานได้คิดเงินไปและบรรจุครัวซองต์ 1 ชิ้นของผมลงไปในถุงแล้ว อีกทั้งก็มีคนเข้าแถวรอคิวถัดจากผมอีกจำนวนมาก ผมก็เลยจำใจต้องรีบจ่ายเงินกับพนักงานสำหรับครัวซองต์เพียงแค่ 1 ชิ้น และผมก็รีบเดินออกจากร้านด้วยความงงๆ !0__+!

หลังจากที่ผมได้ตั้งสติแล้ว ผมก็เลยนึกย้อนกลับไปว่า……
ทำไมพนักงานถึงหยิบครัวซองต์ให้ผมเพียงแค่ 1 ชิ้น ทั้งๆที่ผมอยากจะซื้อมากกว่านี้ (ตามที่ได้บอกไป) ???
.
.
แต่เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว ก็อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของผมที่ผมพยายามจะสื่อสารกับพนักงานของร้านว่าจะซื้อครัวซองต์รสนี้และรสนี้ ผ่านการชี้ไปที่ตู้กระจก และผมก็ใช้นิ้วชี้ของผมทำเป็นเหมือนเลข 1 เพื่อจะสื่อว่าจะเอา 100 กรัม (ใครที่นึกภาพออก ก็คงจะรู้ว่าผมหมายความว่าอย่างไรนะ)
แต่พนักงานของร้านอาจเข้าใจว่าที่ผมทำชี้นิ้วขึ้นอาจแปลว่าผมต้องการซื้อครัวซองต์เพียงแค่ชิ้นเดียว ทั้งที่ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้นเลย !=__=!
พูดง่ายๆก็คือเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดของผมนั่นเอง
และหากผมจะกลับไปต่อคิวซื้อใหม่ก็คงต้องใช้เวลาอีก 10 – 15 นาที แถมขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่ผมจะต้องขึ้นกำลังจะออกอีกไม่นาน เลยทำให้ผมตัดใจไม่กลับไปซื้อ
จึงทำให้ครั้งแรกที่ผมได้ไปซื้อครัวซองต์ที่ร้าน il FORNO del MIGNON นั้น ผมได้ซื้อครัวซองต์เพียงแค่ 1 ชิ้นเล็กๆ!!

แม้ว่าจะเป็นครัวซองต์แค่ 1 ชิ้นเล็กๆ แต่เมื่อผมได้ลองทานดู ผมรู้สึกว่าตัวครัวซองต์มีความกรอบและให้รสชาติที่หอมอร่อยที่สามารถทานกับชาหรือกาแฟได้ (ตอนที่ผมไปรอซื้อ ทางร้านเอาครัวซองต์ที่เพิ่งอบเสร็จจากเตาอบมาเทวางในตู้โชว์)
เอาเป็นว่า อย่างน้อยผมก็ได้มีโอกาสมาซื้อครัวซองต์ร้านดังร้านนี้แห่งสถานี JR Hakata
และไว้หลัง COVID-19 ถ้าผมได้ไปเที่ยวฟุกุโอกะอีก ผมจะไม่พลาดที่จะซื้อครัวซองต์จากร้านนี้มาทานอีก และจะไม่ซื้อเพียงแค่ชิ้นเดียวนะ : )

_________________________
You must be logged in to post a comment.