P.K. EXPLORE

คิดว่าคงน่าจะไม่มีใครหรอกนะที่เวลามาเที่ยวญี่ปุ่น (หรือประเทศอื่นๆ) แล้วไม่มีกระเป๋าเดินทางติดมาด้วย เพราะกระเป๋าเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญสิ่งนึงที่เราต้องใช้ในการเก็บเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่างๆ ในช่วงที่เราเที่ยวอยู่ในญี่ปุ่น

ส่วนตัวกระเป๋าเดินทางจะเป็นขนาดไหน แบบไหนก็ตามแต่ ขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนนะ : )

แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดตรงนี้ ก็คือ เรื่องเกี่ยวกับเวลาที่เราต้องใช้ลิฟต์ตามสถานีรถไฟต่างๆในกรณีที่เรามีกระเป๋าเดินทางมาด้วย……

ลิฟต์ตามสถานีรถไฟต่างๆที่ผมหมายถึง ก็คือลิฟต์ที่ให้บริการสำหรับผู้โดยสารที่มีสัมภาระต่างๆที่มีขนาดใหญ่ที่จะต้องนำขึ้นไปบนรถไฟอย่างกระเป๋าเดินทางตามที่ผมได้กล่าวไว้ (ถ้าเป็นกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กอาจไม่จำเป็นก็ได้ที่ต้องใช้ลิฟต์) และรวมไปถึงผู้โดยสารที่เป็นผู้พิการหรือผู้สูงอายุด้วย

โดยลิฟต์เหล่านี้จะมีให้บริการทั้งด้านในและด้านนอกของสถานี และลิฟต์แบบนี้ส่วนมากที่ผมเจอจะขึ้นลงได้แค่ 2 ชั้นเท่านั้น

ถ้าเป็นลิฟต์ที่อยู่ด้านในของสถานี ตัวลิฟต์จะอยู่ใกล้กับชานชาลาของรถไฟ เวลาที่ลากกระเป๋าเดินทางออกจากลิฟต์ก็สามารถลากเข้าไปยืนรอที่ชานชาลาก่อนที่รถไฟจะมาถึง

จากการที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายครั้ง กรณีในวันที่ผมจะต้องใช้ลิฟต์ของสถานีถ้าผมมีกระเป๋าเดินทางมาด้วย มักจะเป็นวันที่ผมมาถึงโรงแรมที่จะพักในคืนแรก, วันที่ผมจะเดินทางไปยังเมืองอื่นๆที่อยู่ห่างไกล (เช่นจากโตเกียวไปโอซาก้า) หรือแม้แต่วันที่ผมจะเดินทางไปสนามบิน (คงจะนึกภาพกันออกนะ ว่าลักษณะตามที่ผมกล่าวมันเป็นอย่างไร)

แน่นอน กรณีเหล่านี้ผมก็ต้องลากกระเป๋าเดินทางของผมไปหาลิฟต์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ไม่ว่าจะใช้ขึ้นลงเพื่อที่จะไปที่ชานชาลา หรือจะใช้ขึ้นลงเพื่อที่จะออกจากสถานีและไปยังโรงแรมที่พักนะ

ถามว่ามันสะดวกมั๊ยกับการที่ผมได้ใช้ลิฟต์เวลาที่มีกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วย??

ผมตอบได้เลยว่ามันสะดวกจริงๆ : )

อย่างไรก็ตาม ผมก็เคยเจอปัญหาอยู่อย่างนึงเกี่ยวกับการใช้ลิฟต์ตามสถานีรถไฟใน”ครั้งหนึ่ง” ตอนที่ผมมีกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วย

ซึ่งปัญหานั้นก็คือ…….

การที่ผมไม่สามารถหาได้ว่าลิฟต์มันอยู่ตรงไหนของสถานี???

พูดง่ายๆก็คือ หาลิฟต์ไม่เจอ

ดังนั้น ผมต้องอธิบายตามนี้นะ ว่าทำไมเรื่องดังกล่าวถึงเป็นปัญหาสำหรับผม…….

คือต้องบอกว่าลิฟต์แบบนี้ตามที่ผมได้กล่าวไป จากการที่ผมได้ใช้บริการลิฟต์เหล่านี้ตามสถานีรถไฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสาย JR หรือสายเอกชน (แบบบนดินหรือใต้ดิน) ลิฟต์เหล่านี้ตามสถานีส่วนใหญ่สามารถพบเจอได้ง่าย ส่วนมากก็จะมีป้ายพร้อมกับลูกศรชี้บอกว่ามันอยู่ตรงไหน แล้วเราก็เดินไปตามที่ป้ายบอก ซึ่งอันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก

แต่ในบางสถานี มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป

เพราะในบางสถานี มันไม่มีป้ายบอกเลยว่าลิฟต์มันอยู่ตรงไหน อย่าง”ครั้งหนึ่ง”ที่ผมได้กล่าวไปก็เจอปัญหานี้อย่างที่ว่า

ทำให้ในครั้งนั้นผมต้องลากกระเป๋าเดินทางเดินทั่วรอบสถานีว่าลิฟต์มันอยู่ตรงไหน จำได้ว่าเป็นตอนที่ผมออกมาจากสถานีแล้ว และจะหาลิฟต์ลงเพื่อจะเปลี่ยนสายรถไฟ

และจากการที่ผมเดินไปเดินมาหลายรอบเพื่อที่จะหาลิฟต์ลง ผมก็เจอลิฟต์ในที่สุด

ซึ่งมันอยู่ในบริเวณที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมากเท่าไหร่ คือถ้าไม่สังเกตให้ดีหรือไม่ถามเจ้าหน้าที่ก็จะหาลิฟต์ได้ยาก

มันก็เลยทำให้การเดินลากกระเป๋าเพื่อหาลิฟต์ของผมในครั้งนั้นก็ใช้เวลามากกว่าที่ควรจะเป็น !+__=!

และมันก็จริงอยู่ที่บางคนอาจจะบอกว่า “ถ้าหาลิฟต์ไม่เจอ ก็ไปถามเจ้าหน้าที่ของสถานีสิว่ามันอยู่ตรงไหน??” คือทีแรกผมก็อยากจะเดินไปถามเจ้าหน้าที่ แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า ลองเดินหาด้วยตัวเองก่อน แล้วถ้าหาไม่เจอจริงๆ ก็ค่อยไปถามเจ้าหน้าที่ทีหลัง

เอาเป็นว่าปัญหาที่ผมได้บอกไปนี้ ผมถือว่าเป็นปัญหาที่เป็นเรื่องเล็ก ไม่ใช่ปัญหาเรื่องใหญ่นะ และไปญี่ปุ่นครั้งต่อไป ผมหวังว่าจะไม่เจอปัญหาแบบนี้อีก : )

**โปรดทราบว่ารูปถ่ายทั้งหลายนี้ ผมได้ถ่ายไว้ก่อนที่ COVID-19 จะระบาดในญี่ปุ่น**

___________________