เมื่อหลายวันก่อน มีเหตุจำเป็นที่ผมต้องขับรถไปส่งญาติเพื่อไปงานเลี้ยงงานนึงที่สถานที่จัดอยู่ค่อนข้างไกลจากแถวบ้านของผม (เหตุผลคือญาติของผมขับรถทางไกลไม่ค่อยไหวนะ) อีกทั้งผมก็ต้องรอญาติของผมประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง จนกว่างานจะเลิก พูดง่ายๆคือผมจะต้องรอญาติของผมแล้วถึงค่อยกลับพร้อมกัน !0__0!
และในช่วงเวลาที่ผมรอญาติของผม ผมก็สามารถที่จะไปไหนมาไหนได้ในบริเวณแถวนั้น ซึ่งก็มีทั้งร้านอาหาร, สวนให้เดินชมต้นไม้, ร้านกาแฟ รวมไปถึงตลาดนัด ด้วย
แต่ผมเลือกที่จะไม่ไปสถานที่ต่างๆตามที่ว่ามานี้ เพราะสถานที่ที่ผมได้ไปมาในวันนั้นก็คือ…..
ห้องสมุดนั่นเอง : )

ซึ่งผมขอไม่บอกว่าเป็นห้องสมุดที่ไหนนะ ไม่อยากให้คนรู้ (รูปที่เห็นด้านบนที่เห็นเป็นตัวเลขที่ผมเขียนไว้บนกระดาษแผ่นเล็กๆ เดี๋ยวผมค่อยมาบอกว่าคืออะไร แต่บางคนก็อาจจะรู้แล้ว)
และเมื่อพูดถึงห้องสมุด (หรือจะเรียกว่าหอสมุดซึ่งก็ไม่ผิด) ผมอยากจะบอกว่าห้องสมุดเป็นสถานที่ที่ผมสามารถใช้เวลาอยู่ได้นานมาก
คือต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ผมยังเป็นนักศึกษา เวลาที่ผมว่างจากการเรียน ผมมักจะไปห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเป็นประจำเสมอ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและสามารถค้นหาอ่านหนังสือทุกประเภทได้ตามที่ต้องการ ซึ่งก็รวมไปถึงหนังสือวิชาการต่างๆที่ผมต้องใช้ในการค้นคว้าและใช้ในการเป็นข้อมูลอ้างอิงเวลาที่จะส่งงานให้กับอาจารย์ในแต่ละวิชา
ด้วยเหตุนี้ก็ทำให้ผมเป็นคนที่ชอบใช้เวลาอยู่ในห้องสมุดให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เพื่อที่จะได้ค้นหาหนังสือที่น่าสนใจมายืมอ่าน (เฉพาะที่เป็นสมาชิกตอนที่เป็นนักศึกษาเท่านั้นนะ แต่ปัจจุบันผมไม่ได้เป็นสมาชิกห้องสมุดของที่ใดๆแล้ว)
และถ้าหากว่าหนังสือเล่มนั้นที่ผมค้นหามันดีจริงๆ ผมก็จะหาซื้อเก็บไว้เป็นส่วนตัวเพื่อสามารถอ่านได้ตลอด (เหมือนเล่มนี้ในรูปล่าง Weathering With You ของอาจารย์มาโคโตะ ชินไค ที่ผมเองก็ได้ซื้อไว้ตั้งแต่วันวางจำหน่ายเมื่อปี 2019 ก่อนที่ตัวภาพยนตร์จะเข้าฉาย) ยกเว้นซะว่าหนังสือเล่มนั้นไม่มีการตีพิมพ์อีกแล้ว (ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีที่ห้องสมุดยังมีหนังสือเหล่านี้อยู่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง)

และการไปห้องสมุดครั้งนี้ของผมก็แทบจะไม่ได้ต่างจากในอดีต เพราะสิ่งที่ผมทำก็คือผมเดินมองไปตามชั้นหนังสือเพื่อค้นหาว่ามีหนังสืออะไรที่น่าสนใจบ้าง และบางทีเพื่อความรวดเร็ว ผมก็ไปค้นหาจากคอมพิวเตอร์ของสมุดและก็จดรหัสตามเลขเรียกของหนังสือ จากนั้นก็ไปเดินค้นหาตามชั้นว่ามีหนังสือที่เราต้องการหรือไม่ ถ้ามีผมก็จะรีบหยิบมาไว้กับตัวก่อนที่คนอื่นจะหยิบไปจากชั้น
เมื่อผมค้นเจอหนังสือหลายเล่มตามที่ต้องการแล้ว ผมก็จะหยิบหนังสือเหล่านี้มาวางที่โต๊ะอ่านหนังสือที่อยู่ใกล้ๆ แล้วมาเปิดอ่านดู (แบบอย่างเร็ว) ว่าเนื้อหาข้างในของหนังสือแต่ละเล่มมันเป็นอย่างไร เผื่อว่ามีเนื้อหาที่น่าสนใจที่ไม่สามารถหาอ่านได้จากที่อื่น
และตรงนี้เองก็มีสิ่งที่ต่างไปจากในอดีตก็คือ ผมไม่ได้เป็นสมาชิกห้องสมุดแล้ว เท่ากับว่าผมไม่สามารถยืมหนังสือออกได้ และถ้าผมดันไปสนใจเนื้อหาในหนังสือที่อยู่ในห้องสมุด ผมจะทำอย่างไร????
คำตอบก็คือ ถ่ายเอกสารเนื้อหาบางส่วนในเล่มนั่นเอง
ซึ่งก็เป็นไปตามที่เห็นในรูปแรก ตามที่เห็นก็คือเป็นหมายเลขหน้าต่างๆของหนังสือแต่ละเล่มที่ผมได้เขียนลงใส่กระดาษแผ่นเล็กๆเพื่อที่จะได้ให้ร้านถ่ายเอกสารถ่ายตามที่ผมต้องการ และเวลาที่จะถ่ายเอกสารก็ควรที่จะถ่ายเท่าที่จำเป็นนะ

และช่วงเวลาของผมที่ได้อยู่ในห้องสมุดแห่งนี้ก็ได้สิ้นสุดลง (จากที่ได้ใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง) เพราะญาติของผมโทรมาหาบอกว่าใกล้ถึงเวลางานจะเลิกแล้ว ให้ช่วยมารอที่รถด้วย ซึ่งก็เป็นอันว่าผมจะต้องบอกลาห้องสมุดแห่งนี้ซะที
แม้ว่าการมาห้องสมุดครั้งนี้ของผมจะแตกต่างไปจากในอดีต แต่บรรยากาศช่วงเวลาในการใช้ห้องสมุดก็แทบไม่ต่างกันเลย อย่างน้อยตัวผมก็มีเอกสารติดตัวที่ได้มาจากการถ่ายเอกสารจากหนังสือของห้องสมุดเพื่อที่จะเก็บอ่านไว้เป็นความรู้และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
ท้ายสุดนี้ ผมอยากจะบอกว่าห้องสมุดเป็นสถานที่ที่ผมสามารถใช้เวลาได้ทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกเบื่อเลย ส่วนหนึ่งก็เป็นนิสัยของผมที่ชอบอ่านหนังสือ และถ้าเกิดมีโอกาสแบบนี้ในครั้งต่อๆไป ผมก็อยากจะเข้าไปใช้บริการห้องสมุดแบบนี้อีกนะ : )
___________________________________________
You must be logged in to post a comment.