ก่อนที่ผมจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ก็อยากจะเริ่มต้นด้วยประโยคนี้ที่ว่า…………….
“ในการทำธุรกิจ ไม่ว่าคนที่เราคุยด้วยจะเป็นใครก็ตามในแต่ละครั้ง (จะอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ตามแต่) และไม่ว่าจะรู้จักกันนานแค่ไหน ก็จงพูดกับคนๆนั้นด้วยความตั้งใจพร้อมกับมีอัธยาศัยที่ดีและเป็นมิตร เพราะครั้งนั้นอาจจะเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายก็ได้”
มาถึงตรงนี้ บางคนอาจพอจะรู้แล้วว่าผมกำลังหมายถึงอะไรอยู่
แต่ผมก็อยากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเจอกับตัวเองในชีวิตของการทำงาน…….
สำหรับคนที่ทำงานไม่ว่าอายุของงานของแต่ละคนนั้นจะยาวหรือสั้น เชื่อว่าน่าจะต้องมีคนกลุ่มนึงที่เราต้องติดต่อธุระเกี่ยวกับงานนั้นๆเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นผ่านโทรศัพท์หรือผ่าน Application สื่อสารต่างๆ รวมไปถึงการพบเห็นหน้ากันในบางโอกาส ยกตัวอย่างเช่น พนักงานฝ่ายจัดซื้อของโรงงานกับลูกค้าที่สั่งซื้อของไปขายต่ออีกที หรือผู้เชี่ยวชาญที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้กับกิจการต่างๆ
อย่างกรณีของผมนั้น ผมก็มีหน้าที่ที่จะต้องติดต่อบริษัทหรือโรงงานต่างๆที่จะสั่งซื้อสินค้ามาขายต่ออีกที
ซึ่งตรงนี้เองก็ทำให้ผมรู้จักเจ้าหน้าที่หรือพนักงานต่างๆในแต่ละบริษัทหรือโรงงานที่ผมติดต่อเสมอ จนพวกเขาจำเสียงของผมได้
ก็อย่างที่เห็นจากหัวข้อ เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เกี่ยวกับพี่พนักงานคนหนึ่งจากบริษัทแห่งนึงที่ผมติดต่อทางโทรศัพท์เกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าเพื่อนำมาขายต่อมาเป็นเวลา 3 – 4 ปี
พี่คนนี้เป็นคนที่รู้อะไรแทบหมดทุกอย่างเกี่ยวกับสินค้าต่างๆที่ผมสั่ง (จะถามคุณสมบัติของตัวสินค้า, ราคา, จำนวนของที่มีในสต็อก พี่คนนี้รู้หมดเลย)
และในบางโอกาสที่บริษัทมีการจัดรายการสินค้าที่มีการลดราคา พี่คนนี้ก็จะโทรมาบอกผมเสมอว่าช่วงนี้มีสินค้าอะไรบ้างที่ลดราคาบ้าง
หรือแม้แต่เวลาที่ผมต้องโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือในการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าบางตัวที่มีปัญหา พี่คนนี้ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาและบอกว่าวิธีแก้ต้องทำอย่างไร
แม้ว่าผมจะติดต่อพูดคุยกับพี่คนนี้ผ่านโทรศัพท์เป็นส่วนใหญ่ แต่ตลอดที่ผมรู้จักกับพี่คนนี้ ผมเคยเจอพี่คนนี้แบบตัวต่อตัวที่บริษัทที่พี่เขาทำงานอยู่เพียงครั้งเดียว (บังเอิญว่าตอนนั้นผมมีธุระจำเป็นที่จะต้องไปทำแถวนั้น)
และก็มีอยู่ครั้งนึงนี่เองที่ผมจำเป็นต้องส่งสินค้าที่เสียอยู่ตัวนึง (จากลูกค้าของผมอีกที) ไปให้บริษัทที่พี่คนนี้ทำงานอยู่ซ่อมให้ (โดยส่งผ่านขนส่ง) พี่คนนี้ก็รับเรื่องไว้ให้และจะติดต่อกลับเมื่อสินค้าตัวนี้ซ่อมเสร็จแล้ว
………….
พอผ่านไปหลายสัปดาห์ พี่คนนี้ก็โทรศัพท์มาบอกผมว่า “คุณ….(ชื่อของผม)….ค่ะ เครื่องตัวนี้ที่น้องส่งมา ทางฝ่ายช่างแจ้งว่าซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าจะให้พี่ส่งเครื่องตัวนี้กลับไปให้น้องผ่านขนส่งเลยหรือเปล่าคะหรือว่าจะรอให้ส่งพร้อมกับสินค้าตัวอื่นที่จะสั่งในครั้งต่อไป จะได้ไม่ต้องเสียค่าขนส่งหลายรอบ”
ผมก็เลยบอกว่า “ขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างงั้นผมขอฝากเครื่องที่ซ่อมไว้กับพี่ละกันครับ และค่อยส่งมาพร้อมกับสินค้าที่ผมจะสั่งในครั้งต่อไปละกันครับ”
(**เผอิญว่าสินค้าที่ส่งไปซ่อมตัวนี้เป็นของลูกค้าคนนึงและบอกผมว่าไม่ได้รีบใช้และรอได้**)
และพี่ก็ตอบว่า “ได้ค่ะ เดี๋ยว…(ชื่อของพี่พนักงานคนนี้)…จะเก็บตัวเครื่องที่ซ่อมไว้ให้…(ชื่อของผม)…นะคะ และเดี๋ยวค่อยส่งคืนกลับไปพร้อมสินค้าที่….(ชื่อของผม)….จะสั่งค่ะ”
ผมก็เลยตอบกลับพี่คนนี้ว่าขอบคุณและกล่าวคำว่าสวัสดีก่อนที่จะวางสายโทรศัพท์
และการพูดคุยครั้งนี้นี่เองที่ทำให้ผมไม่รู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างผมกับพี่พนักงานคนนี้
…………………
ผ่านไปสักสามสี่เดือน ผมก็โทรศัพท์ไปหาพี่คนนี้เพื่อที่จะเตรียมสั่งสินค้าชุดใหม่พร้อมกับให้ส่งสินค้าตัวที่ซ่อมเสร็จแล้วกลับมา พอผมโทรไปหาก็มีพนักงานอีกคนนึงรับสายแทน
ผมก็เลยบอกว่า “ขอพูดกับคุณ….(ชื่อของพี่พนักงานคนนี้)…ครับ
พนักงานคนที่รับสายก็นิ่งไปสักพักนึง จนทำให้ผมนึกในใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นเหรอ???
……………..
“พี่… (ชื่อของพี่พนักงานคนนี้)…เสียชีวิตไปแล้วค่ะ” พนักงานคนนี้ตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ
“เสียชีวิตไปแล้ว??” ผมฟังแล้วรู้สึกอึ้งๆไปนิดนึง แต่ก็รีบตั้งสติถามเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ…….
พนักงานคนนี้เล่าให้ผมฟังว่า พี่พนักงานคนนี้ที่ผมติดต่อเป็นประจำ (อย่างที่บอกไว้ข้างต้น) ต้องลางานเพื่อเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน และทีนี้ก็เหมือนกับติดเชื้ออะไรบางอย่างที่รุนแรง ก็เลยทำให้พี่คนนี้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน (ไม่ขอระบุว่าเป็นโรคอะไร)
ซึ่งพี่คนนี้เสียชีวิตไปประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่ผมจะโทรมาหาเขาในครั้งนี้
พนักงานที่คุยกับผมทางโทรศัพท์ก็ยังบอกว่า พี่คนนี้ทำงานอยู่ที่บริษัทมาหลายสิบปีและเป็นที่รักของเพื่อนๆและน้องๆพนักงานทุกๆคน และเป็นคนที่สามารถจัดการเรื่องต่างๆทั้งหลายในบริษัทได้เป็นอย่างดี
ผมฟังแล้วก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจและพอจะเดาได้ว่าในตอนนั้นที่พี่คนนี้เสียชีวิต พนักงานคนอื่นๆในบริษัทรู้สึกกันอย่างไร……
อย่างไรก็ตาม เรื่องเกี่ยวกับสินค้าที่ผมส่งซ่อมไปให้กับพี่คนนี้ (ที่เสียชีวิตไป) พนักงานที่รับสายแทนก็บอกผมว่าเดี๋ยวจะจัดการส่งไปให้พร้อมกับสินค้าที่ผมสั่งไป พร้อมกับผมบอกผมว่าถ้าหากจะสั่งสินค้าอะไรก็สั่งกับเขาแทนได้เลย
ผมก็เลยขอบคุณพนักงานคนนี้ที่บอกพร้อมกับขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของพี่คนนี้ด้วย
…………………
ถึงตอนนี้ แม้ว่าพี่พนักงานคนนี้ได้จากไปแล้ว แต่สิ่งนึงที่ผมจะไม่ลืมก็คือคำพูดสุดท้ายของพี่คนนี้ว่า “จะเก็บเครื่องที่ซ่อมไว้ให้และค่อยส่งคืนกลับไป” และน้ำเสียงการพูดของพี่คนนี้ก็พูดออกมาจากความตั้งใจจริงที่จะให้บริการลูกค้าอย่างผม แม้พี่เขาจะไม่รู้เลยว่าครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้มีโอกาสพูดคุยกับผมทางโทรศัพท์ก่อนที่พี่เขาจะจากไป
และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็สอนให้ผมได้รู้อย่างที่ได้บอกในตอนต้นว่า…………
“ในการทำธุรกิจ ไม่ว่าคนที่เราคุยด้วยจะเป็นใครก็ตามในแต่ละครั้ง (จะอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ตามแต่) และไม่ว่าจะรู้จักกันนานแค่ไหน ก็จงพูดกับคนๆนั้นด้วยความตั้งใจพร้อมกับมีอัธยาศัยที่ดีและเป็นมิตร เพราะครั้งนั้นอาจจะเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายก็ได้”
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของพี่คนนี้ด้วยอีกครั้งนะครับ
______________________________