วิธีการจองตั๋วที่นั่งสำหรับรถไฟชินคันเซ็น (รวมไปถึงรถไฟสายอื่นๆของ JR) แบบวิธีที่ผมใช้เป็นประจำโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่องกับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋ว

สำหรับคนที่ใช้ JR PASS เป็นประจำแบบผมเวลาที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็น่าจะต้องคุ้นชินกับการจองที่นั่งบนรถไฟชินคันเซ็น รวมไปถึงรถไฟขบวนอื่นๆที่ต้องจองที่นั่งด้วย (ซึ่งตอนนี้ทาง JR ก็ได้เริ่มมาตรการการจองที่วางกระเป๋าเดินทางด้วยแล้ว ลองไปอ่านได้จากที่ผมเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้)

และคนที่คุ้นชินกับการจองที่นั่งบนรถไฟชินคันเซ็นแบบผม ก็น่าจะไม่มีปัญหาเวลาที่จะจองตั๋วที่นั่ง เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร : )

แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่เคยนั่งรถไฟชินคันเซ็นมาก่อน ก็อาจสื่อสารกับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วไม่รู้เรื่องในเวลาที่จะจองที่นั่ง ยิ่งถ้าบางคนไม่รู้ทั้งภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษก็คงจะสื่อสารกันลำบากพอสมควร และกว่าจะสื่อสารเข้าใจนี่ก็อาจใช้เวลามากเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ต้องเสียเวลาไปเยอะ แถมคนอื่นที่เข้าคิวต่อจากเราก็ต้องเสียเวลาตามไปด้วย

ด้วยเหตุนี้ ผมมีวิธีของผมที่ใช้เป็นประจำในการจองตั๋วที่นั่งสำหรับรถไฟชินคันเซ็นไม่ว่าจะเป็นสายไหนก็ตามแต่ ซึ่งก็รวมไปถึงขบวนรถไฟด่วนอื่นๆของ JR อย่างเช่น NARITA EXPRESS ที่น่าจะเป็นประโยขน์สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยจอง และไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่องกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว

มาดูกันว่าผมทำอย่างไร……..

**วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ผมใช้จองตั๋วที่นั่งกับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วที่เคาน์เตอร์เท่านั้น จะไม่พูดถึงการจองผ่านเว็บไซต์และจองผ่านตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัตินะ**

วิธีนี้ ผมทำมาตั้งแต่อยู่ที่บ้านก่อนที่จะออกเดินทาง โดยวางแผนว่าผมจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง พอ List รายการได้มา ก็มาดูว่าสถานที่แต่ละแห่งจะต้องลงรถไฟชินคันเซ็นที่สถานีไหน และก็จดลงใส่กระดาษก่อน

จากนั้นค่อยมาค้นหารายละเอียดขบวนรถไฟและวันเวลาในการเดินทางจากเว็บ Hyperdia หรือจะค้นหาจากเว็บของ JR โดยตรงก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนละกัน

โดยรายละเอียดข้อมูลของรถไฟแต่ละขบวนของแต่ละสายที่เรานั่งในแต่ละเที่ยว ผมจะจดลงใส่ในกระดาษใบเล็กๆ แบบว่าขบวนของรถไฟเที่ยวนึงก็จะจดลงใส่กระดาษหนึ่งใบ ยิ่งมีหลายเที่ยว ก็จดลงใส่หลายใบ (คงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมบอกนะ)

เหตุผลที่ผมทำแบบนี้ ก็เพื่อทำให้เจ้าหน้าที่ที่จำหน่ายตั๋วเข้าใจได้ชัดเจนว่าเราจะนั่งขบวนไหนในวันเวลาใดบ้างของแต่ละเที่ยว และป้องกันการสับสนด้วย

ซึ่งรายละเอียดที่ผมจดลงใส่กระดาษเวลาที่จะยื่นให้เจ้าหน้าที่ตอนที่จะจองก็จะเป็นแบบนี้ดังตัวอย่างในรูปล่าง……..

โดยรายละเอียดที่ว่านี้ก็มี (ดูจากหมายเลขตัวสีแดงที่ผมลงไว้ในรูป):

1) ชื่อขบวนรถไฟที่ขึ้น

2) สถานีต้นทางที่ขึ้น และสถานีปลายทางที่จะลง (พร้อมลูกศรชี้ไปทางขวาหน้าชื่อสถานีที่ลง)

3) เวลาที่รถไฟออกจากสถานีต้นทางและเวลาที่ถึงสถานีปลายทาง

4) วันที่ที่เราจะจองเพื่อเดินทาง (ซึ่งในส่วนที่เป็นเดือนผมแนะนำว่าให้เขียนเป็นชื่อเดือนตัวย่อแทนตัวเลข เพื่อป้องกันการสับสนในการอ่านวันที่)

จากตัวอย่างในใบกระดาษที่ผมจะยื่นให้กับเจ้าหน้าที่เวลาที่จะจอง ข้อมูลการเดินทางก็จะเป็น:

การจองตั๋วรถไฟชินคันเซ็นขบวน HIKARI 509 ออกจากสถานี Shinagawa เวลา 10:40 และถึงที่สถานี Nagoya เวลา 12:17 โดยออกเดินทางในวันที่ 24 ตุลาคม 20XX

เพียงแค่มี 4 ข้อมูลนี้ เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วก็จะเข้าใจได้ทันที และก็สามารถออกตั๋วได้รวดเร็วและไม่เสียเวลา และเราก็จะได้ตั๋วรถไฟชินคันเซ็นตามที่เราต้องการจอง (สำหรับคนที่ไม่มี JR PASS ก็ต้องชำระเงินตอนจองตั๋วด้วยนะ)

แต่เจ้าหน้าที่อาจถามเพิ่มว่าเราอยากนั่งตรงส่วนไหน ริมหน้าต่าง หรือทางเดิน ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะมีรูปผังที่นั่งให้เราดู เพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้น

แต่ถ้าเกิดว่าขบวนรถไฟที่เราจะจองดันไม่มีที่นั่ง เจ้าหน้าที่ก็จะหาขบวนอื่นที่ใกล้เคียงที่สุดให้เราแทน

ในกรณีถ้าเกิดว่าใครต้องนั่งรถไฟชินคันแบบไปมาหลายรอบอย่างผม ก็เขียนข้อมูลของเที่ยวขบวนรถไฟแต่ละขบวนอย่างที่ผมได้บอกไว้ในกระดาษใบเล็กหลายๆแผ่น เวลาจะจองก็จะได้จองล่วงหน้าทีเดียวไปเลย : )

และกระดาษใบเล็กๆเหล่านี้ที่ผมยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ที่จำหน่ายตั๋วตอนจอง ผมจะเก็บใส่ในกระเป๋าเงินหรือไม่ก็ในช่องของกระเป๋าเป้ที่ผมสามารถหยิบได้สะดวก พอจะจองก็หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆเหล่านี้ออกมาใช้ได้เลย

ใครที่เที่ยวญี่ปุ่นโดยที่ต้องนั่งรถไฟชินคันเซ็นเป็นประจำแบบผม ก็สามารถเอาวิธีที่ผมว่ามานี้ไปใช้ได้นะ จะได้สะดวก รวดเร็วทั้งสำหรับเราและเจ้าหน้าที่ที่จำหน่ายตั๋ว และไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่องนะ เพราะเจ้าหน้าก็ที่เต็มใจที่จะให้การบริการที่ดีสำหรับเรา : )