อยากเขียนเรื่องนี้ไว้ให้ได้อ่านกัน (แม้ว่าขณะนี้ญี่ปุ่นจะเตรียมเปิดประเทศรับคนต่างชาติเฉพาะกลุ่มคนที่ไปเรียนและคนที่ไปทำงานก่อน ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวก็ยังต้องรอต่อไป จนกว่าจะมีประกาศจากทางการ) และจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพียงแค่อยากจะเขียนเล่าให้ฟัง เวลาที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าหลัง COVID-19 จะได้ไม่ต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ซึ่งเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น หรือเรียกสั้นๆว่า ด่านตม. นั่นเอง
อย่างที่ทราบกันว่าเวลาที่เรามาญี่ปุ่นเพื่อที่จะมาเที่ยว (หรือจะมาเรียนหรือมาทำงานก็ตามแต่) เราก็จะต้องผ่านด่านตม.ถึงจะสามารถเข้าประเทศได้
และสิ่งสำคัญสิ่งนึงที่ขาดไม่ได้เลยเวลาที่เราจะผ่านด่านตม.(นอกเหนือจากหนังสือเดินทาง) ก็คือใบตม.ขาเข้านั่นเอง (ภาษาอังกฤษก็คือ Disembarkation Card สามารถไปดูตัวอย่างแบบฟอร์มได้จากลิงค์นี้)
สำหรับใครที่คิดว่า เอ๊ะ ผมจะมาสอนวิธีการกรอกตม.ใบขาเข้าหรือ?? ขอบอกไม่ใช่นะ
เพราะเรื่องที่จะเล่ามาจากประสบการณ์ในอดีตของผมที่เจอโดยตรงซึ่งเกี่ยวกับการกรอกใบตม.ขาเข้า
ก็คือเรื่องของการที่มีนักท่องเที่ยวคนนึงกรอกที่อยู่ลงในใบตม.ขาเข้าไม่ชัดเจน และถูกร้องขอให้กลับไปกรอกใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนนี้ไม่ใช่ผม แต่เป็นคนอื่นที่ผมเห็นนะ

เรื่องมันมีอยู่ว่าในวันนั้น ระหว่างที่ผมกำลังเข้าแถวรอที่จะผ่านด่านตม.ในสนามบินแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ผมสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวคนนี้ตามที่ได้บอก (ไม่รู้ว่านักท่องเที่ยวคนนี้มาจากประเทศไหน) ยืนตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่ที่ด่าน ซึ่งดูเหมือนจะใช้เวลานานกว่าคนอื่นๆ
แล้วทันใดนั้น นักท่องเที่ยวคนนี้ก็หันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะกรอกแบบฟอร์มใบตม.ขาเข้า ด้วยสีหน้าที่ดูกังวล พร้อมกับใบตม.ขาเข้าที่ถืออยู่ในมือ (คือก่อนที่จะถึงด่านตม. ก็จะมีโต๊ะที่มีแบบฟอร์มใบขาเข้าที่ให้นักท่องเที่ยวต้องกรอกเพื่อที่จะยื่นที่ด่าน อีกทั้งในบางสนามบินก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารให้อีกครั้งก่อนที่จะเดินเข้าที่ไปด่าน)
ผมเดาว่าเขาคงจะถูกร้องขอจากเจ้าหน้าที่ให้กรอกใบตม.ขาเข้าใหม่นั่นเอง
และในจังหวะที่เขากำลังเดินกลับไปที่โต๊ะกรอกแบบฟอร์ม เผอิญว่าเขาได้เดินผ่านผมด้วย (ที่กำลังยืนรออยู่ในแถว) และผมก็บังเอิญไปเห็นสิ่งหนึ่งที่เขาได้เขียนในใบตม.ขาเข้า
นั่นก็คือ เขาได้กรอกในส่วนที่เป็นที่อยู่ไม่ชัดเจน
**อันนี้ต้องบอกว่าผมบังเอิญเห็นจริงๆแบบไม่ได้ตั้งใจ (เพราะใบตม.ขาเข้าที่เขาถืออยู่มันเห็นรายละเอียดที่เขากรอกชัดเจนมาก) ไม่ใช่แบบว่าผมจงใจเข้าไปยื่นหน้าไปดูว่าใบตม.ขาเข้าของเขาเขียนว่าอะไร อันนี้ถือเป็นการเสียมารยาทอย่างแรงและไม่ให้ความเคารพกับความเป็นส่วนตัวด้วย**

สำหรับคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นประจำก็น่าจะทราบว่าเวลาที่เรากรอกใบตม.ขาเข้าในส่วนที่เป็นที่อยู่ (ชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า Intended address in Japan) เราก็จะต้องกรอกชื่อและที่อยู่โรงแรมที่เราจะพัก พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ด้วย เพราะในกรณีที่มีเหตุอะไร ทางตม.ก็สามารถตามตัวได้
ส่วนมากเวลาที่ผมกรอก ผมจะกรอกเป็นชื่อที่อยู่โรงแรมที่ผมจะพักเป็นคืนแรกในทริปนั้นๆ
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวคนนี้ สิ่งที่เขาได้กรอกลงในส่วนที่เป็นที่อยู่ ก็จะเป็นคำแบบประมาณๆนี้ตามที่เห็น……
Hotel, Guesthouse, Ryokan, Apartment etc.
คือผมไม่ได้จำแบบแม่นยำว่าเขาเขียนว่าอะไร แต่ก็เข้าข่ายอยู่ในคำเหล่านี้นะ
ด้วยเหตุนี้ ผมถึงไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงต้องกลับไปกรอกใบตม.ขาเข้าใหม่ เพราะเขากรอกที่อยู่ไม่ชัดเจนนั่นเอง (ส่วนเขาจะกรอกใหม่อย่างไร อันนี้ผมไม่รู้นะ)
ตามที่ได้บอก เวลาที่เราจะกรอกใบตม.ขาเข้าในส่วนที่เป็นที่อยู่ เราก็ต้องกรอกชื่อและที่อยู่ของโรงแรมที่เราจะพักพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งก็มีตัวอย่างตามที่ได้เห็นในรูปที่สองที่ผมเขียนลงไว้ในกระดาษแผ่นเล็กๆที่เตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมา (เมื่อถึงเวลาที่ผมจะต้องกรอกในส่วนที่เป็นที่อยู่ ผมก็สามารถหยิบใบนี้แล้วเขียนลอกลงใส่ในใบตม.ขาเข้าได้เลย)
เพราะถ้าหากเรากรอกที่อยู่ในใบตม.ขาเข้าให้ชัดเจน ก็จะทำให้ง่ายขึ้นสำหรับเราที่จะผ่านด่านตม. (แต่ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว มันก็มีเรื่องอื่นๆด้วย เช่นคำถามที่เราต้องตอบถ้าหากเจ้าหน้าที่ถาม หรือการถูกร้องขอให้แสดงเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับการเที่ยวของเรา ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะเจอแบบไหนนะ มันก็ไม่เหมือนกัน)
เอาเป็นว่าเวลาที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งต่อไป (หลัง COVID-19 คลายลง) เวลาที่เราต้องกรอกใบตม.ขาเข้า เราก็ต้องกรอกให้ชัดเจนครบทุกช่อง ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็ตามแต่นะ (จะเป็นที่อยู่, เที่ยวบินขามา หรือจำนวนวันที่เรามาเที่ยว) จะได้ไม่ต้องถูกร้องขอจากเจ้าหน้าที่ให้กลับไปกรอกใหม่ และเราจะได้ผ่านด่านตม.แบบสบายใจเพื่อที่เราจะได้ออกไปเที่ยวญี่ปุ่นตามที่เราได้วางแผนไว้ : )

___________________________________
You must be logged in to post a comment.